งบผูกพันแก้น้ำท่วมปี 2544 ของสำนักการระบายน้ำไม่มีปัญหา

ข่าวทั่วไป Monday August 7, 2000 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กทม.
นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ในฐานะโฆษกคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่าง ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2544 ของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ วานนี้(3 ส.ค.43) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากลั่นกรองการเสนอของบประมาณปี 2544 ของสำนักการระบายน้ำ และสำนักรักษาความสะอาด ในแต่ละรายการโดยละเอียด โดยมีตัวแทนจากทั้งสองหน่วยงานมาชี้แจงเมื่อมีข้อซักถามในส่วนของสำนักการระบายน้ำ ซึ่งเสนอของบมา 2,104.5 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบผูกพันใช้ในการก่อสร้างระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และโครงการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญฯ เห็นว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งใน 2544 นี้มีโครงการสำคัญหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียหนองแขม-ภาษีเจริญ-ราษฎร์บูรณะ และระบบบำบัดน้ำเสียรวมระยะที่ 4 โครงการก่อสร้างระบบผันน้ำเปรมประชากร โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และในพื้นที่เขตบางพลัด บางกอกน้อย โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำในพื้นที่เขตพญาไท บางขุนเทียน จอมทอง หนองแขม และคลองต่างๆ ตลอดจนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยู่เสมอเพื่อแก้ไขความเดือนร้อนของประชาชน อย่างไรก็ดี คณะอนุกรรมการวิสามัญฯจะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เพื่อดูว่าปัญหาในพื้นที่กับงบประมาณที่เสนอขอมานั้น มีความสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร
สำหรับสำนักรักษาความสะอาด ซึ่งเสนอของบประมาณจำนวน 1,015.07 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการวิสามัญฯได้ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณในโครงการจ้างเหมาเอกชนทำความสะอาดถนนและสิ่งก่อสร้าง 60 ล้านบาท ว่าจะมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด เนื่องจากในปี 2543 สภากทม.ได้อนุมัติงบเพื่อใช้ในโครงการนี้จำนวน 184 ล้านบาท และโอนเงินเหลือจ่าย 6 ล้านบาทไปใช้ในงานอื่น ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญฯต้องการทราบรายละเอียดดังกล่าว ประกอบกับมีความเห็นว่า ปัจจุบันการทำความสะอาดล้างถนนในพื้นที่ส่วนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่เขตก็ดำเนินการอยู่แล้ว และมีศักยภาพพอที่จะดำเนินการเองได้ทั้งหมด อีกทั้งสำนักรักษาความสะอาดก็มีรถทำความสะอาดอยู่เป็นจำนวนมาก อาจไม่จำเป็นต้องจ้างเหมาเอกชนดำเนินการต่อ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯไปตรวจสอบความเหมาะสมก่อนที่จะพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการจ้างเหมาเอกชนขนถ่ายมูลฝอยระบบใหม่ จำนวน 54 ล้านบาท ของสำนักรักษาความสะอาด ซึ่งเป็นงบต่อเนื่องจากปี 2543 นั้น คณะกรรมการวิสามัญฯต้องการทราบรายละเอียดความแตกต่างระหว่างการขนถ่ายมูลฝอยระบบใหม่กับระบบเก่า ว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร จึงจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงหมวดรายจ่ายอื่นๆ ในแผนงานพัฒนาและส่งเสริมการรักษาความสะอาด ซึ่งต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนมาประกอบการพิจารณา
นายพินิจกล่าวด้วยว่า การพิจารณางบประมาณของกทม.นั้น คำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้จ่าย ให้สอดคล้องกับงาน เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด ก่อนที่จะอนุมัติงบในปีนี้ให้ ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการผิดวินัยทางการคลัง--จบ--
-นศ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ