กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--สมาคมโรคข้อและกระดูก
น.พ.อุดม วิศิษฎสุนทร นายกสมาคมโรคข้อและกระดูกแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า โรคข้อเป็นโรคพบบ่อยมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และยังพบได้ในทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะปวดบริเวณข้อต่อต่าง ๆ ทำให้ทรมานมาก แม้จะได้รับการรักษาแต่ไม่หายขาด ซึ่งโรคข้อเกิดจากหลายสาเหตุ รวมทั้งการเสื่อมของข้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยง แต่จะชะลอให้เกิดช้าลงได้ บริเวณที่พบมากก็จะเป็นบริเวณข้อเข่า หลัง แขน ขา มักไม่ปรากฏอาการในระยะแรก แต่จะทราบได้จากการเอกซเรย์เท่านั้น
"จากการประมาณการผู้ป่วยคนไทยที่เป็นโรคข้อคาดมีจำนวนถึงร้อยละ 10 ของจำนวนประชากร หรือประมาณ 6 ล้านคน พบในหญิงมากกว่าชาย และปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือคนอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากอาชีพที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยนั่งเป็นเวลานาน มีการใช้ข้อไม่ถูกต้องกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้มาก" น.พ.อุดร กล่าว และว่า ที่ผ่านมาหลายคนยังมีความเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลตนเอง อาการปวดเมื่อยบางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ยาแต่ก็ไปซื้อยามารับประทานเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ซึ่งอาจทำให้เกิดอัตรายตามมา โดยเฉพาะยาชุดและยาสมุนไพรลูกกลอนมักมีสเตียรอยด์ที่เป็นส่วนผสม รวมทั้งการใช้ยาต้านอักเสบ (NSAIDs) ที่มีผลข้างเคียงทำให้ปวดท้อง กระเพราะอาหารเป็นแผล อาจมีเลือดออก กระเพาะรั่วได้หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อที่ผิดว่ายาลูกกลอนปลอดภัย แต่หารู้ไม่สมุนไพรในรูปยาลูกกลอนมักแฝงไปด้วยผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อาทิ อาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน อาการเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ตัวบวม บางรายอาจเสียชีวิตได้--จบ--
-สส-