กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม รับงบประมาณเร่งด่วนจากรัฐบาล 85 ล้านบาท ดันอุตสาหกรรมแฟชั่น และเกษตรแปรรูป ยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs ไทยออกสู่ตลาดสากล โดยมุ่งเน้นการออกแบบและการสร้างเครือข่ายคลัสเตอร์ให้ผู้ประกอบการ คาดว่าจะสามารถพัฒนาSMEs ได้กว่า 500 ราย ผลิตนักออกแบบรุ่นใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย รวมถึงเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศและมีการลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ล้านบาท
ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาหลักของ SMEs ไทยที่พบส่วนมากยังคงเป็นเรื่องของการพัฒนาและการออกแบบสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงการขาดความแตกต่างและความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ทำให้ไม่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จึงเร่งดำเนิน "โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs สู่ตลาดโลก" เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการผลักดันผู้ประกอบการที่มีความพร้อมออกสู่ตลาดต่างประเทศ(International) ภายใต้แนวคิด"Shining to the World" รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกมุ่งยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่น (อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า และอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ) และอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถส่งออกมีมูลค่ารวมกันได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินการในอุตสาหกรรมแฟชั่น กสอ. เน้นการเพิ่มศักยภาพด้วยการพัฒนาเชิงลึกให้กับ SMEs ทั้งในด้านรูปแบบผลิตภัณฑ์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด การสร้างนักออกแบบยุคใหม่และการพัฒนาฝีมือนักออกแบบให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงการปลูกฝังแนวคิดด้านแฟชั่นเทรนด์เริ่มตั้งแต่ในระดับอุดมศึกษา โดยจะดึงนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลกเข้ามาให้การอบรมและวางรากฐานแนวคิดด้านการออกแบบและนวัตกรรมแฟชั่นจนเกิดเป็นไอเดียในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสามารถต่อยอดเป็นผลงานสู่การแข่งขันในระดับสากล นอกจากนี้ กสอ. ยังให้การสนับสนุนนักออกแบบที่ผ่านการพัฒนาแล้วได้มีเวทีแสดงผลงานในงานแฟชั่นโชว์ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลักดันสินค้าภายใต้แบรนด์ไทยให้ได้เป็นที่รู้จักและสร้างความจดจำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเวทีระดับอาเซียนและระดับโลกต่อไป
ดร.สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหาร มุ่งเน้นการรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่าย (Cluster) การยกระดับมาตรฐานกระบวนการผลิตตามหลักสากล และการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ SMEs สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการตลาดมีการสร้างความแตกต่างให้กับตัวสินค้าและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นโดย กสอ. ตั้งเป้าหมายพัฒนาSMEs ในปี 2559 จำนวนกว่า 500 ราย และสร้างนักออกแบบอีกกว่า 2,000 ราย โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศตลอดจนเพิ่มการลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจโครงการต่างๆของกรมส่งเสริมเสริมอุตสาหกรรมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-17 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr