กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ว่า ได้เร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณ และเร่งรัดก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล รวมถึงให้มีการจัดสรรงบประมาณลงสู่พื้นที่ในส่วนภูมิภาคเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชน โดยกำชับให้ผู้บริหารทุกระดับต้องลงมากำกับดูแล เร่งรัด ติดตามและแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานอย่างจริงจัง รวมทั้งต้องรับผิดชอบต่อผลงานและประสิทธิภาพการบริหารจัดการของหน่วยงานด้วย
รมว. วธ. กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2559 เพิ่มเติม โดยกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมไตรมาสแรกร้อยละ 30 งบลงทุนร้อยละ 19 รวมทั้งเร่งรัดให้มีการจัดซื้อจัดจ้างในงบลงทุนที่มีวงเงินตั้งแต่ 2-500 ล้านบาท ขยายเวลาก่อหนี้ได้จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2559 หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ยกเลิกโครงการและส่งคืนงบประมาณ เพื่อนำไปใช้ในโครงการสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงกำกับดูแลและเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานเบิกจ่ายงบประมาณ และเร่งรัดก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล จากการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมสิ้นไตรมาสแรก เบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมได้ร้อยละ 17.37 งบลงทุนเบิกจ่ายได้ร้อยละ 8.38 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดมาก นอกจากยังมีงบลงทุนที่ยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ในไตรมาสแรกอีก 6 รายการ งบประมาณรวม 290 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเร่งรัดก่อหนี้ผูกพันโดยด่วนที่สุด ดังนั้น จึงได้กำชับให้ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องทุกระดับต้องลงมากำกับดูแล เร่งรัด ติดตามและแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างจริงจัง โดยให้มีมาตรการให้คุณให้โทษต่อผลงาน ประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณ และบริหารจัดการของผู้บริหารหน่วยงานทุกระดับทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคด้วย
รมว. วธ. กล่าวอีกว่า การบริหารงบประมาณต้องดำเนินการให้เป็นไปมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล มีความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพประสิทธิผล โปร่งใสและสอดคล้องกับกฎระเบียบ นอกจากนี้ต้องมีการกระจายงบประมาณลงสู่พื้นที่ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ซึ่งเป็นผู้แทนกระทรวงในส่วนภูมิภาค ซึ่งจะมีการจัดสรรให้จังหวัดต่างๆ ดำเนินการและเร่งรัดการใช้จ่าย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนตามบทบาทและภารกิจของกระทรวงในระดับพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ ให้มีการกำกับดูแล ติดตามและเร่งรัดการดำเนินงาน หากหน่วยงานใดไม่สามรถดำเนินการได้ผู้บริหารต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ จะประชุมติดตามการบริหารงบประมาณของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และกรมศิลปากร ซึ่งมีผลการเบิกจ่ายที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดด้วย
รมว. วธ. กล่าวตอนท้ายว่า เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายที่จะรณรงค์ส่งเสริมความเป็นไทยทั้งในระดับชาติ ระดับอาเซียนและนำความเป็นไทยสู่สากล รวมทั้งการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับหลายประเทศ ประกอบกับปี 2559 และปี 2560 จะมีวาระครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตกับหลายประเทศ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมจัดทำแผนปฏิบัติการ โครงการและกิจกรรมเพื่อรองรับการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวด้วย