กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ไทยออยล์
เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Gold Class ติดต่อกันสามปีซ้อน
สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯในทุกมิติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
เมื่อเร็วๆนี้ ไทยออยล์ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI ให้ ไทยออยล์เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหรรมดังกล่าวทั่วโลกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประเมินในครั้งนี้ และในการประเมินครั้งนี้ไทยออยล์ยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ Gold Class ติดต่อกันเป็นปีที่สามอีกด้วย
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในครั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 3,400 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย RobecoSAM โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 59 อุตสาหกรรม โดยในแต่ละอุตสาหกรรม บริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้ชื่อว่าเป็น The RobecoSAM Industry Leader กล่าวคือเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว โดยการเปิดรับโอกาสและบริหารจัดการความเสี่ยงให้ได้ดีที่สุดภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
"ในปีนี้ RobecoSAM จัดอันดับให้ไทยออยล์เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เนื่องจากมีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์ของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีการผลิตที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม และมีกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แข็งแกร่ง ยิ่งกว่านั้น ไทยออยล์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจ รวมทั้งสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนรอบโรงกลั่นได้อย่างเข้มแข็ง" นายอธิคม กล่าวเสริม
นายอธิคมกล่าวเพิ่มเติม " บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินว่ามีความมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนปี 2557-2561 ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน ดังเช่นแนวทางการปกป้องสิ่งแวดล้อม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคม ซึ่งไทยออยล์ได้สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการเพิ่มการผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล รวมทั้งโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต และการเปลี่ยนหัวเผาเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมเป็นชนิดที่ปล่อยก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจนในระดับต่ำมาก นอกจากนี้ ไทยออยล์ถือว่าพนักงานเป็นฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จจึงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ความเป็นผู้นำ และการอบรมเป็นสำคัญ ทั้งยังมีการพัฒนากระบวนการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ และความปลอดภัยในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ไทยออยล์มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น"
" สำหรับประเทศไทยมี 3 บริษัทใน 3 อุตสาหกรรม ที่ RobecoSAM จัดอันดับให้เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนั้นๆ ( RobecoSAM Industry Leader 2016) ไทยออยล์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับการประเมินให้เป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากกลุ่มนักลงทุนต่อความสามารถของบริษัทฯ ในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว "คุณอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ กล่าวสรุป