กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--กทม.
สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เดินหน้าโครงการทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณท่าช้างและถนนหน้าพระลาน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเร่งปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร ก่อนเริ่มดำเนินการทาสี 15 ก.พ.นี้
นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง (สผม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของ “โครงการทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณท่าช้างและถนนหน้าพระลาน” ว่า ภายหลังจากที่ได้มีพิธีรับมอบสีทาอาคารตามโครงการดังกล่าว จากบริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.43 นั้น ขณะนี้โครงการอยู่ในระหว่างขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซมอาคาร ส่วนการทาสีนั้นเดิมจะเริ่มดำเนินการภายในต้นเดือน ก.พ.นี้ แต่เนื่องจากในช่วงระหว่างวันที่ 7-12 ก.พ.44 สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก จะเสด็จฯเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และกรุงเทพมหานครต้องเตรียมการรับเสด็จฯ ตนจึงประสานไปยังกลุ่มประชาคมและสำนักงานเขตพระนคร เพื่อชะลอการทาสีไว้ก่อน รวมทั้งได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของอาคารในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ในเส้นทางที่สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งเดนมาร์กจะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ขอความร่วมมือจัดเก็บบริเวณหน้าอาคารให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยรวมทั้งได้ประสานไปยังหน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่นสายไฟฟ้า ในบริเวณดังกล่าวให้เป็นระเบียบและอยู่ในสภาพเรียบร้อยด้วย
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการทาสีอาคารตามโครงการดังกล่าวได้ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.พ.นี้ โดยในวันดังกล่าวจะได้เรียนเชิญนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการ กทม. มาเป็นประธานในพิธีด้วย
สำหรับความเป็นมาของโครงการปรับปรุงทาสีอาคารดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกทม.โดยสผม. ได้ดำเนินโครงการวางผังเฉพาะแห่งในพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในหลายบริเวณ เช่น ท่าพระจันทร์ บริเวณท่าเตียน ปากคลองตลาด เป็นต้น ซึ่งเป็นพื้นที่ตามแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นชอบแล้ว แต่เนื่องจากแผนและผังดังกล่าวต้องใช้เวลาและกรรมวิธีที่นานพอสมควรในการนำไปสู่การปฏิบัติ สำนักผังเมืองร่วมกับสำนักงานเขตพระนครจึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมอาคารในลักษณะที่สามารถดำเนินการได้ทันที คือ การปรับปรุงและทาสีอาคารโดยอาศัยความร่วมมือจากประชาชนผู้ใช้อาคาร ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์แก่พื้นที่และไม่ทำลายรายละเอียดความสวยงามของอาคารเดิม ทั้งนี้โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี--จบ--
-นศ-