กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.44) เวลา 09.00 น. ที่ห้องเรนโบว์ ฮอลล์ โรงแรมใบหยกสกาย เขตราชเทวี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองท้องถิ่น พ.ศ.2542 โดยมี ผศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ หัวหน้าภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางวิบูลวรรณ สุขสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 210 คน ร่วมในพิธี
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการ กรุงเทพมหานคร กล่าวรายงานว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้สืบเนื่องมาจากพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่อง์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 18 พ.ย.42 เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นตามมาตรา 284 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งจะมีผลก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งภารกิจ อำนาจหน้าที่ รายได้ และกระบวนการบริหารราชการกรุงเทพมหานครเป็นอย่างมาก กล่าวคือ กรุงเทพมหานครมีขอบข่ายอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมายอยู่หลายประการ และเมื่อพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะทำให้กรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบและภารกิจเพิ่มมากขึ้น จากการถ่ายโอนของรัฐบาลกรุงเทพมหานครในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษจำเป็นต้องปฏิบัติตามเจตนารมย์ของกฎหมาย พร้อมที่จะรับโอนภารกิจดังกล่าว ดังนั้น สำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติฯให้บรรลุวัตถุประสงค์ และสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานครจึงร่วมกันจัดโครงการสัมมนาเรื่อง พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่อง์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ขึ้น ซึ่งเป็นการจัดสัมมนาครั้งที่ 2 โดยในครั้งแรกได้จัดสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ให้แก่ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ระดับ 9-10 และผู้อำนวยการเขตทุกเขต ในปีงบประมาณ 2543
สำหรับการสัมมนาครั้งที่ 2 นี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมในการปรับแนวทางการบริหารราชการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 อีกทั้งเพื่อให้ทราบถึงกรอบหรือแนวทางของกรุงเทพมหานครในการรับมอบภารกิจใหม่ และสามารถเตรียมพร้อมรองรับการถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวนทั้งสิ้น 210 คน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็นแนวนโยบายของรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปยังท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น กรุงเทพหมานครซึ่งเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นต้องเตรียมพร้อมที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ ตลอดจนต้องปรับระบบการทำงานสู่รูปแบบใหม่ที่เหมาะสมประกอบกับ ขณะนี้พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มีผลบังคับใช้แล้ว พระราชบัญญัติฉบับนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งภารกิจ อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบมากขึ้นจากการถ่ายโอนภารกิจสาธารณะ และทรัพยากรด้านการเงินของรัฐบาล ซึ่งกรุงเทพมหานครจะต้องมีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
กรุงเทพมหานครในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีอำนาจหน้าที่ในการให้บริการแก่ประชาชนในการจัดบริการสาธารณะต่างๆ รวมทั้งต้องพัฒนาการบริหารระบบภาษีอากร การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่พึงจะได้รับ อีกทั้งจะต้องเตรียมพร้อมที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นทั้งในเรื่องของภารกิจ อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบจากการถ่ายโอนภารกิจบริการสาธารณะและภารกิจต่างๆ ที่รัฐบาลจะต้องถ่ายโอนให้แก่กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลักใหญ่ของความพร้อมที่จะรองรับความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การบริหารและการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติฯ ขึ้นอยู่กับบุคลากรของกรุงเทพมหานครว่ามีความพร้อมเพียงใด หากไม่มีความพร้อมการบริหารและการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานครอาจมีความสับสนและไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลกระทบจะตกอยู่กับประชาชน ฉะนั้นจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาสาระของกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีความรอบคอบและถูกต้องเหมาะสมมากที่สุดตามเจตนารมย์ของกฏหมาย--จบ--
-นห-