กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้เปิดทริกเกอร์ฟันด์จับจังหวะหุ้นจีนกองที่ 24 รับวันตรุษฯ ลุยช้อนซื้อหุ้นแดนมังกรช่วงปรับฐาน เชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจจีนดียังเติบโตเนื่องในระดับ 6.5-7.0% มองหุ้นผันผวนเพียงแค่ระยะสั้น Valuation ล่าสุดถูกกว่าสมัยวิกฤติฟองสบู่แตกในสหรัฐฯ เมื่อปี 2008 มั่นใจทางการจีนมีศักยภาพเพียงพอรับมือความผันผวนของตลาดหุ้น ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 8% ใน 8 เดือน เปิด IPO แล้วถึงวันที่ 28 ม.ค. 59 นี้
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า บลจ. ทิสโก้ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่สามารถจับจังหวะช่วงเวลาการลงทุนที่เหมาะสมให้แก่นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในต่างประเทศ ล่าสุด บลจ. ทิสโก้ จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่าทริกเกอร์ 8% #24 (TISCO China Trigger 8% Fund 24: TISCOC24) สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนในหุ้นชั้นนำของจีน โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายที่ 8% ไม่ใช่การประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนของกองทุน แต่เป็นเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุนและเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง แนะนำเข้าซื้อช่วงหุ้นปรับฐาน เชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจจีนยังดีอยู่ ภาครัฐเน้นการเติบโตจากการบริโภคในประเทศรวมถึงภาคบริการเป็นหลัก มั่นใจว่าทางการจีนพร้อมดำเนินมาตรการทั้งการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับ 6.5-7.0% โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกแล้วถึงวันที่ 28 ม.ค. 59 นี้
"อัตราการเติบโตของ GDP จีนเมื่อไตรมาส 4 ปี 2558 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้อัตราการเติบโตทั้งปีของ GDP จีนเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 6.9% ซึ่งไม่หลุดจากการตั้งเป้าหมายของรัฐบาล และยังถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ด้วยกัน กระนั้นทางการจีนยังพร้อมจะดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ เห็นได้จากธนาคารกลางจีน (PBoC) มีการทยอยปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงอัตราเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดยังดำเนินการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินอีกกว่า 4 แสนล้านหยวนเพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน อีกทั้งมูลค่าของตลาดหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ถูกกว่าในสมัยเกิดวิกฤติฟองสบู่ในสหรัฐฯ ที่เป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจทั่วโลกหดตัวแต่สภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันถือว่ายังเติบโตได้ดี ซึ่งแตกต่างจากในช่วงนั้นเป็นอย่างมาก ล่าสุด Price to Book Value ของดัชนี HSCEI Index (H-Share) มี P/B อยู่ในระดับเพียง 0.7 เท่า ขณะที่ forward P/E อยู่ในระดับ 6-7 เท่า เมื่อพิจารณากับปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นจีนแล้ว เราจึงมองว่า Downside ด้านราคามีค่อนข้างจำกัด ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูง และรับความเสี่ยงของความผันผวนในระยะสั้นได้" นายสาห์รัช กล่าว
กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% #24 ถือเป็นกองทุนที่ 24 ในซีรีส์ทริกเกอร์ฟันด์หุ้นจีน โดยจะเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำของจีน ผ่านกองทุนHang Seng H-Share Index ETF ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี HSCEI หรือ H-Shares โดยมีมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท และเนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4