AGE กางแผนปี 59 ชูกลยุทธ์บุกตลาดเวียดนาม โชว์ออร์เดอร์ในประเทศแกร่ง ย้ำเป้ารายได้โตจากปีก่อน 10-15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 25, 2016 10:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี กางแผนปี 2559 ชูกลยุทธ์รุกตลาดเวียดนาม เหตุดีมานด์สูง ระบุยอดคำสั่งซื้อถ่านในประเทศอื้อ เล็งทุ่มงบ 40-50 ลบ. ลงทุนสร้างโรงคัดแยกถ่านหิน-เครื่องจักรเพิ่ม เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม ด้าน "พนม ควรสถาพร" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ ยิ้มออกหลังแผนลดต้นทุนเห็นผล ดันภาพรวมธุรกิจโตเด่น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ระดับ 10-15% นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์ในการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานเริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยได้เน้นเรื่องการลดต้นทุน ทั้งจากคลังสินค้าและการขนส่งและใช้ความได้เปรียบในเรื่องโลเคชั่นของท่าเรือ และคลังสินค้าที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้มีความได้เปรียบทางด้านต้นทุนการขนส่ง ตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย 10-15% ในปี 2559 นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญเรื่องของชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยมีทีมบุคลากรที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยตรง รวมถึงยังได้รับรางวัล "CSR-DIW Awards 2015" ซึ่งรางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงนโยบายของบริษัท ที่มุ่งเน้นการเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีความรับผิดชอบ และดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ส่วนแผนการลงทุนในปี 2559 นั้น บริษัทเตรียมสร้างโรงคัดแยกถ่านหิน (ระบบปิด) เพิ่ม โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 45-50 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเน้นเจาะตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ด้านตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวจึงทำให้ยอดขายในต่างประเทศมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการขาย โดยเน้นการขยายตลาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดขายในประเทศในปี 2558 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 15-20% และในส่วนตลาดต่างประเทศ บริษัทได้เริ่มมีการเปิดตลาดใหม่ ซึ่งก็คือประเทศเวียดนาม และในปี 2559 บริษัทยังคงมีแผนที่จะขยาย ตลาดในประเทศและตลาดในเวียดนามเพิ่มเติม รวมทั้งแผนการรุกไปยังตลาดทางเลือกใหม่ โดยบริษัทได้ส่งทีมมาร์เก็ตติ้งที่มีความเชี่ยวชาญในการบุกตลาดอาเซียน เข้าไปขยายฐานลูกค้า อาทิ กลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้า และกลุ่มโรงงานปูนซีเมนต์ "ทางเราได้ผลกระทบอยู่บ้าง เพราะตลาดจีน คือ ตลาดใหญ่ ถ้าจีนได้รับผลกระทบด้านราคา ประเทศอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบด้วย แต่สิ่งที่เราทำคือ ปรับกลยุทธ์ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการเน้นแผนลดต้นทุนในทุกส่วน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลคุณภาพสินค้าที่จะส่งให้ลูกค้า โดยในช่วงปลายปี 2558 บริษัทได้มีการขายรถขนส่งออกไป เพื่อใช้รถขนส่งจากพันธมิตร ในราคาที่แข่งขันได้แทน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนอย่างถาวร และเน้นขยายตลาดลูกค้าในประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมกับวางแผนบุกตลาดทางเลือกอื่น อย่างตลาดเวียดนามที่เราให้ทีมมาร์เก็ตติ้งไปบุกตลาดมาก่อนแล้ว และตลาดนี้ก็ยังมีความต้องการถ่านหินสูงอยู่ เชื่อว่าอนาคตน่าจะมีคำสั่งซื้อถ่านหินเพิ่มเข้ามาอีก" นายพนมกล่าว อีกทั้ง มองว่าประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจยังมีการขยายตัวสูงขึ้นในอนาคต เห็นได้จากธุรกิจต่างๆ ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศดังกล่าวสูงขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ยอดขายของปี 2559 แบ่งเป็นในประเทศ 80-85% และต่างประเทศ 15-20% ปัจจุบันมียอดขายถ่านหินไปประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาดจีน แต่เชื่อว่าอนาคตยอดออร์เดอร์จะปรับตัวได้สูงขึ้นจากความต้องการการใช้ถ่านหินและยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจขายถ่านหินไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการอีกด้วย อาทิ ประเทศกัมพูชา เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ