เตือนสตรี…..อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ล้างภายใน เพื่อป้องกันการเกิดโรคอันตรายได้

ข่าวทั่วไป Friday August 18, 2000 09:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--โรงพยาบาลบำราศนราดูร
นพ.ภูชิชย์ มีประเสริฐสกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีเวช โรงพยาบาลบำราศนราดูร กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า ”ขณะนี้อัตราการเกิดโรคตกขาว ซึ่งจะเป็นเฉพาะผู้หญิง เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะซื้อน้ำยาล้างช่องคลอด ตามที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดมาล้างช่องคลอดด้วยตนเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าว จะเป็นการทำให้เชื้อโรคที่มีอยู่ในช่องคลอดขาดการสมดุล อาทิ เชื้อรา, เชื้อแบคทีเรีย ฯลฯ ไม่สมดุลกัน ทำให้เกิดอาการผิดปกติได้ คือมีอาการตกขาวเป็นสีเหลืองปนหนอง ปนเลือด, มีกลิ่นเหม็น และไม่สัมพันธ์กับการมีประจำเดือน ดังนั้น เมื่อเกิดอาการดังกล่าว จะต้องไปพบแพทย์โดยด่วน ไม่ควรที่จะไปซื้อยามาใช้เอง เพราะยาที่รักษาอาจจะไม่ตรงกับโรคที่กำลังเป็นอยู่ได้
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้หญิงเกิดโรคดังกล่าวได้ง่าย เนื่องจากมีการนำน้ำยาล้างช่องคลอดมาใช้บ่อยครั้ง หรือมีการฟอกสบู่วันละหลายครั้ง ทำให้สภาพความสมดุลของเชื้อโรคในช่องคลอดเสียไป และผิวหนังภายนอกระคายเคือง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดของการป้องกันคือ ควรล้างด้วยน้ำเปล่า และล้างเฉพาะภายนอกเท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องล้างภายใน และไม่ควรใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่อับชื้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคขึ้นได้”นายแพทย์ภูชิตกล่าวต่อว่า “โดยทั่วไป ผู้หญิงจะเป็นตกขาวโดยธรรมชาติกันทุกคน ซึ่งตกขาวแบบปกตินั้น จะสัมพันธ์กับประจำเดือนของคนคนนั้น คือจะเป็นก่อนที่จะเป็นประจำเดือน และตกขาวส่วนใหญ่จะมีสีขาวใสเหมือนแป้ง แต่ไม่มีกลิ่น, ไม่เหม็น ซึ่งหากเกิดอาการอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรักษา ซึ่งเมื่อเป็นประจำเดือนแล้วอาการดังกล่าวก็จะหายไป”
ผู้หญิงทุกคนควรรู้จักสังเกตความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์ของตน ถ้ามีการตกขาวมาก มีกลิ่น หรือสีผิดปกติ พร้อมกับมีอาการคันหรือเจ็บแสบ ซึ่งบอกให้รู้ว่ามีการอักเสบเกิดขึ้นแล้ว ตามปกติช่องคลอดจะชื้นอยู่เสมอ เนื่องจากมีมูกที่ผลิตจากปากมดลูก มูกนี้จะมีลักษณะขาว และไม่ทำให้คัน หรือเจ็บแสบ แต่อาจมีมากในระหว่างการตั้งครรภ์ ระยะไข่สุก หรือเมื่อมีอารมณ์เพศซึ่งไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ถ้ามีอาการอักเสบ หรือมีเนื้องอกบริเวณอวัยวะเพศ ปัสสาวะบ่อยและปวดแสบ ตกเลือดขณะหรือหลังการร่วมเพศ หรือมีอาการเจ็บปวดขณะร่วมเพศต้องรีบไปปรึกษาแพทย์
หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ และการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง สามารถสอบถามได้ที่ “สายด่วนสุขภาพ 590-2000” บริการเพื่อสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข โดยกดหมายเลขโทรศัพท์ 590-2000 ท่านก็จะได้รับข้อมูลด้านสุขภาพที่ท่านต้องการ ท่านที่สนใจสามารถติดต่อขอรับคู่มือสายด่วนสุขภาพ 590-2000 ได้ที่ กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 โทร. 590-1611, 590-1618, โรงพยาบาลของรัฐ, ด่านเก็บค่าธรรมเนียมการทางพิเศษแห่งประเทศไทย, สถานีบริการน้ำมันบางจากในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล, ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ