กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
วันที่ 25 มกราคม 2559 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 19 กระทรวงวัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในฐานะประธานแถลงข่าวโครงการวัฒนธรรมเชื่อมใจชายแดนใต้สันติสุข "รักษ์ วิถีถิ่น วิถีไทย ก้าวไกลสู่สากล" ประจำปี 2559ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้สนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้างจิตสำนึกความเป็นไทยให้เกิดขึ้นในสังคม และนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยเผยแพร่สู่สากลให้เป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยใช้มิติของวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของชาติ จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการวัฒนธรรมเชื่อมใจชายแดนใต้สันติสุข "รักษ์ วิถีถิ่น วิถีไทย ก้าวไกลสู่สากล" ประจำปี 2559 ระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2559 ณ จังหวัดปัตตานี เพื่อเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและเชื่อมใจคนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ กระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์สืบสานศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในการศึกษาค้นคว้า สืบสาน และสร้างสรรค์สู่การเพิ่มคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสร้างความรักความผูกพัน ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรม และความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตน อีกทั้งเป็นการเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2563 "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" โดยกำหนดจุดเน้น 3 เรื่องหลักคือ วิถีถิ่น-วิถีไทย วัฒนธรรมไทย-วัฒนธรรมอาเซียน และมรดกไทย-มรดกอาเซียน
ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กอ.รมน. ศอ.บต. และ 5 จังหวัดภาคใต้ ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยส่งเสริมอัตลักษณ์และสังคมพหุวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมในจังหวัดชายแดนใต้ และนำมิติทางวัฒนธรรมมาเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในชาติและนานาชาติ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1. บริเวณหน้าโรงแรมซี เอส ปัตตานี ประกอบด้วย ขบวนแห่เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การเสวนาศาสนิกสัมพันธ์ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ "ศาสนาเชื่อมใจ ใต้สันติสุข" 2. บริเวณเวทีกลาง พบกับการประชันดิเกร์ฮูลูระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย การแสดงพื้นบ้านปัตตานี นราธิวาส และยะลา รวมถึงการแสดงพื้นบ้านของประเทศกัมพูชา การประกวด "เด็กตานี รักษ์วัฒนธรรม" และการแสดงทางวัฒนธรรมอีกมากมาย และ3.บริเวณลานวัฒนธรรม จัดกิจกรรมให้ความรู้ในรูปแบบของนิทรรศการ สาธิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม(CPOT) หัตถกรรมพื้นบ้านและอาหารพื้นถิ่นของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ การถ่ายทอดศิลปะการแสดงซีละลงสู่เยาวชน และการถ่ายทอดการวาดภาพแก่เยาวชน ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมงานมหกรรมวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของไทย สนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และพบกับความอลังการของการแสดงในมิติวัฒนธรรมของไทยและประเทศอื่นๆในอาเซียนอีกด้วย