กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--โพลีพลัส พีอาร์
"ดนตรี" ถือเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง และเป็นงานอดิเรกที่ทำให้เด็กรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ พร้อมกับการส่งเสริมพัฒนาทางด้านกระบวนความคิด จินตนาการ สมาธิ และความฉลาดทางอารมณ์ควบคู่กันไป ดังนั้น โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา จึงร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดการแสดงคอนเสิร์ต "Violin & Ensemble ครั้งที่ 3" (ไวโอลิน แอนด์ ออนเซมเบิล ครั้งที่ 3) กิจกรรมภายใต้โครงการ "ร้องรำทำเพลง" เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาทักษะการเล่นดนตรีให้มีความเชี่ยวชาญ และเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีคลาสสิก โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้มีเยาวชนไทยเข้าร่วมแสดงกว่า 160 ชีวิต ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา
ผศ.ดร. ศศิธร จ่างภากร ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา กล่าวว่า "ดนตรีเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับเด็ก เนื่องจากดนตรีจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ เสริมสร้างความคิด จินตนาการ และยังช่วยกระตุ้นให้มีการแสดงออกในทางสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังทำให้เด็กรู้จักการจัดสรรเวลา ในการฝึกซ้อม และยังพัฒนาประสาทสัมผัสทางการได้ยิน การเคลื่อนไหวร่างกาย และฝึกสมาธิ รวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง ในการแสดงออกในที่สาธารณะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกหล่อหลอมจนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะการจัดการตนเอง มีทักษะทางสังคม รู้จักรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ให้เกียรติผู้อื่น และที่สำคัญที่สุดคือ การเล่นดนตรีช่วยผ่อนคลายความเครียด ทางโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม รวมทั้งคณาจารย์และผู้ปกครอง จัดการแสดงคอนเสิร์ต "Violin & Ensemble ครั้งที่ 3" ขึ้น เพื่อเป็นเวทีสนับสนุนให้เด็กๆ ได้แสดงออกถึงความสามารถทางด้านดนตรี"
ด้าน อาจารย์ เทพพนม วี ปาลมา ประธานจัดการแสดงคอนเสิร์ต "Violin & Ensemble ครั้งที่ 3" กล่าวว่า "เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งปีนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาของเด็กๆ มากขึ้น ทั้งเรื่องเทคนิกการสีไวโอลิน ความพร้อมเพียงกัน ซึ่งการแสดงครั้งนี้มีนักดนตรีเยาวชนร่วมโชว์กว่า 160 ชีวิต ตั้งแต่ ป.1 – ม.6 จากวง KUS Violin Kids, วง US Junior Chamber Music, วง KUS String Ensemble และพิเศษพบกับวง String Orchestra จาก โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบัวทอง ที่จะมาบรรเลงบทเพลงต่างๆ อาทิ บทเพลงสำหรับเด็ก เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงสากล เพลงคลาสสิก พร้อมชมการแสดงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงเดี่ยว การแสดงกลุ่มเล็ก รวมถึงเป็นวงขนาดกลาง
บรรยากาศการแสดงอบอุ่นไปด้วยเหล่าผู้ปกครอง และผู้หลงใหลในเสียงไวโอลิน ที่ต่างมาชมความสามารถของเด็กไทย และเป็นกำลังใจให้เหล่านักดนตรีตัวน้อย กว่า 160 ชีวิต ที่ต่างมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการบรรเลงบทเพลงอันไพเราะ อาทิ เรือนแพ, Concerto for Strings, , Yesterday, The Magical World of Pixar, Music from the Royal Fireworks ฯลฯ โดยเริ่มการแสดงกับวง KUS Violin Kids ของน้องๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ต่อด้วยวง วง KUS Junior Chamber Music ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จากนั้นต่อด้วยการแสดงพิเศษวง String Orchestra จาก โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบัวทอง ปิดท้ายความเพลิดเพลินกับวง KUS String Ensemble ซึ่งเป็นวงสำหรับน้องที่เล่นเพลงขั้นสูง ใช้เทคนิกในการสีไวโอลินค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีนักร้องชั้นครู "แอน-นันทนา บุญหลง" ศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักร้องเสียงดี "อู๋-ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา" ร่วมชมความสามารถของน้องๆ อีกด้วย
ด.ช. ภูวิศ สิงห์ปรุ อายุ 6 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา เผยว่า "ตอนเลือกเรียนกิจกรรมพิเศษหลังเลิกเรียน คุณแม่ถามว่าอยากเรียนไวโอลินไหม พร้อมกับเปิด วีดีโอการแสดงไวโอลิน ให้ผมดูผมก็สนใจและสมัครเข้าร่วมวง KUS Violin Kids ตอนนี้หัดเล่นไวโอลินมาได้ 1 ปีแล้วครับ ผมชอบไวโอลินมาก เพราะสนุกได้เล่นดนตรีกับเพื่อนๆ และทำให้ผมมีสมาธิและอดทนมากขึ้นด้วย ก่อนการแสดงครั้งนี้ซ้อมหนักมากฝึกซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียนครับ"
ด.ญ. แพรชมพู เรียงรุ่งโรจน์ อายุ 10 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา เล่าว่า "เริ่มสนใจในดนตรีตั้งแต่อนุบาล 3 โดยเริ่มจากเรียนคีย์บอร์ด ต่อมาเริ่มเรียนไวโอลิน และตอนนี้เล่นวิโอลา ซึ่งคล้ายไวโอลิน แต่ตัวใหญ่กว่า เสียงทุ่มกว่าค่ะ ตอนนี้หนูก็ได้มีโอกาสร่วมวงดุริยางค์เยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยค่ะ ดีใจมาก เพราะส่วนตัวหนูชอบเล่นดนตรีมาก สนุก เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และได้ฝึกสมาธิ เพราะต้องจำตัวโน๊ต หนูก็เอามาใช้กับการเรียนด้วยค่ะ"
ด.ช. อภิวิชญ์ ประจักษ์แสงสิริ อายุ 10 ปี ชั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา เผยว่า "เป็นการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าคนเยอะๆ มาแล้ว 4 ครั้ง ทำให้มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก กล้าพูดและที่สำคัญฝึกการอดทน ไม่วอกแวก และฝึกระเบียบวินัยให้ตนเองครับ"
ด.ญ. ชญาภรณ์ สุทธิประภา อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบัวทอง กล่าวว่า "หนูอยากมีทักษะด้านดนตรี จึงขอคุณพ่อคุณแม่เรียนค่ะ และเริ่มเรียมตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่ตัดสินใจเลือกดนตรีเป็นงานอดิเรก เพราะได้เพื่อนเพิ่มขึ้น และได้ฝึกสมาธิ ที่สำคัญคือทำให้หนูรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และการแสดงครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ให้เด็กๆ ได้มีโอกาสแสดงความสามารถค่ะ
ด.ช. ฆนาการ มหาพิรุณ อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบัวทอง เผยว่า "เริ่มเรียนเมื่อสองปี ที่แล้ว คุณพ่อคุณแม่สนับสนุนให้เรียนครับ ตอนเริ่มเรียนใหม่รู้สึกว่ายาก แต่สนุกครบ ฝึกความอดทน ความมานะ ซึ่งก็มีไปแสดงโชว์ตามที่ต่างๆ เป็นการเสริมความมั่นใจให้กับตัวเองครับ"
การแสดงคอนเสิร์ต "Violin & Ensemble ครั้งที่ 3" (ไวโอลิน แอนด์ ออนเซมเบิล ครั้งที่ 3) เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยที่มีความสนใจในดนตรีคลาสิก ได้แสดงความสามารถต่อสาธารณะชน ซึ่งถือเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ สร้างความมั่นใจให้กับนักดนตรีรุ่นเยาว์ ก่อนจะก้าวสู่เวทีระดับประเทศ และระดับโลกต่อไป โดยการจัดแสดงคอนเสิร์ต "Violin & Ensemble" ยังคงจะจัดต่อเนื่องขึ้นเป็นประจำทุกปี