กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--Image Impact
• ฉลองยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 112 ปี
• ส่งมอบ 3,785 คันให้แก่ลูกค้าในปี 2558
• ครองความเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์ระดับ super luxury ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 200,000 ยูโรขึ้นไป
• ยอดจำหน่ายโดยรวมทั่วโลกเติบโต ยกเว้น จีน
• ยอดบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) สูงสุดเท่าที่เคยมีมา
• ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกในฐานะผู้ผลิตสินค้าระดับ super luxury
• ทวีปอเมริกาเหนือมียอดขายสูงสุด ตามด้วยตะวันออกกลาง ยุโรปและเอเชียแปซิฟิก
• สหรัฐอเมริกาเติบโตมากที่สุด
• ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 130 รายใน 50 ประเทศ
• โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส อาบูดาบี คว้าตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายที่มียอดขายสูงสุด 3 ปีซ้อน
• สร้างงาน 100 ตำแหน่งในปี 2558
• มีผู้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมบุคลากรมากที่สุด
• เปิดศูนย์เทคโนโลยีและโลจิสติกส์แห่งใหม่ ณ บอกนอร์ รีจิส
• ขยายการลงทุนในส่วนของโรงงานผลิตเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่
บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ประกาศยอดจำหน่ายในปีพ.ศ. 2558 ว่าบริษัทฯ มียอดขายสูงสุดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 112 ปีของประวัติศาสตร์บริษัทฯ ด้วยการส่งมอบรถยนต์จำนวน 3,785 คันแก่ลูกค้าทั่วโลก
มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด เผยว่า "ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทายมากสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าระดับหรูโดยรวม เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จที่สวนกระแสกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์จากกลยุทธ์ทางการตลาดระยะยาวที่เน้นเรื่องการเติบโตอย่างสมดุล ยั่งยืน และมีผลกำไร ทำให้บริษัทฯ ยังคงครองความเป็นผู้นำระดับโลกในฐานะผู้ผลิตสินค้าระดับหรู และผมมั่นใจว่าเราจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้"
ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์โรลส์-รอยซ์ของปีพ.ศ. 2558 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในขณะที่อเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ในส่วนของแต่ละตลาดที่เติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ เกาหลี (ร้อยละ 73) ญี่ปุ่น (ร้อยละ 7) กาตาร์ (ร้อยละ 21) รัสเซีย (ร้อยละ 1) สหราชอาณาจักร (ร้อยละ 2) และสหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 7)นอกจากนี้ ตลาดใหม่หลายแห่ง อาทิ ไต้หวัน อินโดนิเซีย มาเลเซีย และคาซัคสถานเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในส่วนของประเทศจีนได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้านที่ส่งผลต่อตลาดสินค้าระดับหรูโดยรวมทำให้ยอดจำหน่ายลดลงร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2557
การประสบความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายในครั้งนี้มาจากยนตรกรรม "เรธ" และรถยนต์ในตระกูลโกสต์ ในขณะที่ยนตรกรรมแฟนธอมยังคงดำรงตำแหน่งสุดยอดความนิยมทั่วโลกซึ่งเป็นการตอกย้ำโรลส์-รอยซ์ในฐานะสินค้าระดับ super luxury ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก ในปีที่ผ่านมาโรลส์-รอยซ์ยังคงเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในตลาดรถยนต์หรูที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200,000 ยูโร (หรือประมาณ 8,000,000 บาท) ทำให้บริษัทฯ ครองตำแหน่งผู้นำรถยนต์ระดับหรูมานานกว่าทศวรรษ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงตอกย้ำพันธะสัญญาที่ให้ไว้เกี่ยวกับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใหม่ถึง 5 รายในปีพ.ศ. 2558 ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรวมทั้งสิ้น 130 ราย และบริษัทฯ จะยังคงขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายต่อไปในปีพ.ศ. 2559 และในปีที่ผ่านมาโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส อาบูดาบี ยังคงครองตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายที่มียอดขายสูงสุดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส รับมือกับความท้าทายของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกด้วยการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในเดือนกันยายน 2558 บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวยนตรกรรมเปิดประทุนใหม่ "ดอว์น" สู่ตลาดทำลายสถิติการจองล่วงหน้าของรถยนต์รุ่นอื่น และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีไลฟสไตล์ในการชอบสังสรรค์ โดยยนตรกรรม "ดอว์น" คันแรกจะพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีพ.ศ. 2559
ในเดือนเดียวกันนั้น การขยายการลงทุนของบริษัทฯ ในเฟสแรกได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ด้วยการสร้างศูนย์เทคโนโลยีและโลจิสติกส์ (Technology and Logistics Centre หรือ TLC) ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 30,000 ตารางเมตรแห่งใหม่เสร็จสมบูรณ์ ณ เมืองบอกนอร์ รีจิส สหราชอาณาจักร และเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2559
ตลอดปีที่ผ่านมาการขยายงานและอาคารเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ บ้านของโรลส์-รอยซ์ ที่กู้ดวูด โดยบริษัทฯ ได้เพิ่มการลงทุนในส่วนของระบบการผลิตที่จะช่วยผลักดันกลยุทธ์นวัตกรรมของยนตรกรรมในระยะยาวต่อไป
อีกทั้ง ยังเป็นปีที่มีจำนวนลูกค้าใช้บริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) มากที่สุด โดยทีมนักออกแบบและช่างฝีมือได้รับมอบหมายให้ร่วมกันสร้างสรรค์โรลส์-รอยซ์ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลและสะท้อนถึงไลฟสไตล์ของพวกเขาเหล่านั้น อาจกล่าวได้ว่ายนตรกรรมแฟนธอม โกสต์และเรธ เกือบทุกคันที่ออกจากบ้านโรลส์-รอยซ์ในปีที่ผ่านมาล้วนสร้างสรรค์จากบริการบีสโป๊ก ช่วยเป็นเครื่องยืนยันฐานะยนตรกรรมระดับ super luxury เพียงหนึ่งเดียวที่สร้างสรรค์จากงานหัตถศิลป์อย่างแท้จริง และโรลส์-รอยซ์ยังคงตอกย้ำถึงตำแหน่งการเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลผ่านบีสโป๊ก คอลเล็กชั่น ได้แก่ เรธ อินสไปร์ บาย ฟิล์ม แฟชั่น และมิวสิก แฟนธอม ไนท์ฮอว์ก และไลม์ไลท์ หรือแฟนธอม เซเรนนิตี้ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เป็นต้น
การตอบรับจากลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และพันธะสัญญาในการที่จะขยายการลงทุนในบุคลากร นำไปสู่การสร้างงานถึง 100 ตำแหน่งในปีพ.ศ. 2558 ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานถึง 1,600 คนที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ เพิ่มขึ้นจาก 350 คนเมื่อครั้งที่สร้างสรรค์รถยนต์แฟนธอมคันแรกในปีพ.ศ. 2546
มร. เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมชมบ้านของโรลส์-รอยซ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ว่า "โรลส์-รอยซ์ คือเรื่องราวความสำเร็จของอังกฤษในฐานะผู้ผลิต" อีกทั้ง นายกฯ ยังได้ชื่นชมและร่วมแสดงความยินดีแก่โปรแกรมการฝึกอบรมบุคลากร (Apprenticeship Programme) ของโรลส์-รอยซ์ที่ได้พัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดผู้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมบุคคลากรมากที่สุดและคาดว่าเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของโปรแกรมฯ จำนวนผู้เข้าฝึกอบรมปีนี้ก็จะสูงเช่นกัน
ความสำเร็จของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์สในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเป็นบทพิสูจน์ของกลยุทธ์ทางการตลาดในระยะยาวของบริษัทฯ ที่เน้นเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้เห็นได้จากการเติบโตของผู้ใช้บริการโปรแกรม โพรเวอร์แนนซ์ และการบริการทางด้านการเงินในปีที่ผ่านมา ข้อเสนอของบริการเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์โรลส์-รอยซ์ขยายออกไปสู่วงกว้าง และเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์มากยิ่งขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของอังกฤษ แอนนา โซบรี กล่าวว่า "ยอดจำหน่ายของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แสดงให้เห็นว่ารถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษยังคงเป็นที่ต้องการและยังเป็นการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ของเราได้เป็นอย่างดี เราจะยังคงให้การสนับสนุนและลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถสร้างงานฝีมือชั้นสูง และผลักดันการส่งออกไปยังตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จของโปรแกรมการฝึกอบรมบุคคลากรของบริษัทฯ ที่จะช่วยให้เราสามารถรักษามาตรฐานการผลิตให้คงอยู่ แม้ว่าปัจจุบันเราจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพมากที่สุดในยุโรปแล้วก็ตาม