รมว.ท่องเที่ยวเผยนักท่องเที่ยว Hi-End ยุโรป ชื่นชอบท่องเที่ยววิถีไทย ผลักดันยุทธศาสตร์ร่วมมือภูมิภาคอาเซียนย้ำพัฒนาท่องเที่ยวเชื่อมโยง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความยั่งยืน

ข่าวท่องเที่ยว Thursday January 28, 2016 09:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่27มกราคม 2559) รายได้จากนักท่องเที่ยววันที่ 1-26มกราคม 2559 นักท่องเที่ยวสะสมขยายตัวร้อยละ 15.67 ในวันที่ 26 มกราคม 2559 ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากนักท่องเที่ยว128,657.97 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 16.81 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลักเดือนมกราคม 2559 นักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลักขยายตัวร้อยละ 15.09 จากจำนวนนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลัก 5 แห่ง ในวันที่ 1-26 มกราคม ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 80 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของประเทศพบว่ามีจำนวน 2,038,776 คน ขยายตัวร้อยละ 15.09 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยท่าอากาศยานที่นักท่องเที่ยวขยายตัวสูงสุดคือท่าอากาศยานดอนเมือง ร้อยละ 51.97 รองลงมาได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และสุวรรณภูมิ (ขยายตัวร้อยละ 31.29 ร้อยละ 21.86 ร้อยละ 12.16 และร้อยละ 6.69 ตามลำดับ) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) กล่าวถึงการส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยวตลาดยุโรปว่าได้สร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการในงาน Network Lunch เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ประกอบด้วยผู้ประกอบการ และหน่วยงานไทยประจำสาธารณรัฐสเปนกว่า 50 ราย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวสเปนเดินทางมาประเทศไทย จำนวน 150,940 คน เติบโต 29.03%สูงสุดจากตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยว Hi-End นอกจากนี้ นางกอบกาญจน์ ยังได้ร่วมประชุมกับสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวใหญ่ของประเทศสเปน CEAV (Confederacion Espanola de Agencias de Viajes) เพื่อเตรียมจัดประชุมสมาชิกผู้ประกอบการและผู้นำทางความคิดของสเปน (CEAV Congress 2016) ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 200-300 คน ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2559 ณ จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะได้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในภาคเหนือของไทยในช่วงปลายปีนี้ นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติม เรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวอาเซียน ฉบับที่ 2ด้วยว่าเป็นแผนสำหรับปี 2016-2025 ซึ่งยุทธศาสตร์ฉบับ 2 นี้ ช่วยส่งเสริมอัตลักษณ์และตัวตนของแต่ละประเทศให้มีการกระจายรายได้และสร้างความสมดุลย์ของรายได้ประชาคมและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 2 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างความยั่งยืน โอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีอาเซียน ในปี 2017จะมีการเปิดตัวการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเซียน Single Tourism Destination เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน จากสถิติ ปี 2558 พบว่า มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียน 98 ล้านคน เติบโต 7.3%ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยว 29.8 ล้านคน เติบโต 20% นักท่องเที่ยวระหว่างกัน 41 ล้านคน มีนักท่องเที่ยวจากอาเซียนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย 7.8ล้านคน เติบโต 18.7% การประชุมทวิภาคี 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา เรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทยไปกัมพูชา มีการดำเนินการท่องเที่ยว ทางบก 2 เส้นทาง โดยจะเพิ่มเส้นทางสายจันทบุรี ตราด สีหนุวิลล์ เสียมเรียบ ซึ่งมีโอกาสเดินทางเชื่อมต่อไปยังเกาะฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม ทางน้ำ จะมีการพัฒนาการท่องเที่ยวเรือสำราญร่วมกัน ทั้งนี้ รัฐมนตรีท่องเที่ยวกัมพูชาได้ขอให้ภาคเอกชนไทยมีการลงทุนสร้างโรงแรมระดับ 4-5 ดาว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และเพิ่มเส้นทางการบินตรงโดยสายการบิน ANA จากญี่ปุ่น ไปเสียมเรียบ ประเทศเมียนมาร์ ประเทศไทยและเมียนมาร์จะมีการทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากไทยไปเมียนมาร์มากขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 1 เส้นทาง คือ เชียงใหม่-มัณฑะเลย์-พุกาม-เนปีดอร์-กรุงเทพ นอกจากนี้ เมียนมาร์ต้องการให้ประเทศไทยไปลงทุนสร้างโรงแรมและพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันที่หมู่เกาะในเมืองมะริดและแหล่งท่องเที่ยวภูเขาที่มีหิมะในเมืองเว้อีกด้วย ประเทศจีน จะพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างกันโดยใช้โครงการอาเซียน 50 และจีนขอให้ประเทศไทยเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางออกนอกประเทศประมาณ 6 ล้านคน ในช่วง 7 วัน คาดจะมีนักท่องเที่ยว จำนวน 1-2 ล้าน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ประเทศฟิลิปปินส์ ไทยและฟิลิปปินส์ จะพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเรือสำราญและการท่องเที่ยวเพื่อแลกเปลี่ยนของกลุ่มเยาวชนร่วมกัน การท่องเที่ยวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นศักยภาพของทุกประเทศในอาเซียนการประชุมแต่ละครั้งทำให้เกิดความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันเกิดการแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละประเทศมีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวเดินทางกันในอาเซียนนำไปสู่การท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติอย่างสมดุลย์และนำไปสู่การกินดีอยู่ดีทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในอาเซียน รมว.กอบกาญจน์ กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ