กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่งตั้งนักรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผู้มีชื่อเสียง นาเดเรฟ "เยบ" ซาโน เป็นผู้อำนวยการบริหารคนใหม่
เยบ มีประวัติช่ำชองทั้งการมีส่วนร่วม และ เป็นผู้นำการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมในระดับโลก กรีนพีซเชื่อมั่นว่า เยบจะผลักดันให้ภารกิจของกรีนพีซบรรลุวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างอนาคตให้น่าอยู่ สะอาดขึ้น และมีสันติสุขมากขึ้น สำหรับทุกคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งสนับสนุนความเพียรพยายามในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่นำความหายนะมาสู่เรา
ชูซี ฮูโตโม ประธานกรรมการบริหาร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า " เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ เยบ ซาโน ในฐานะผู้อำนวยการบริหารของกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามั่นใจว่า เยบจะนำพาให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และ พฤติกรรม เพื่อปกป้อง อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนสันติภาพ และเพื่อปกป้องโลกที่เปราะบางของเราจากการทำลายล้าง รวมทั้งช่วยให้เราทุกคนบรรลุเป้าหมายในการสร้างความยุติธรรมให้แก่สิ่งแวดล้อม
เยบ เกิดที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ตลอดชีวิตการทำงาน เยบอุทิศตัวให้กับการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เยบทำงานรณรงค์ต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศมาตลอด 20 ปี นอกจากนี้ เยบยังเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าโครงการพลังงานและสภาพภูมิอากาศของกองทุนสัตว์ป่าโลก และเคยเป็นกรรมาธิการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2553
ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาของฟิลิปปินส์ในที่ประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCCC ที่กรุงวอร์ซอว์ ปี 2556 เยบได้ยกประเด็นเร่งด่วนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ให้คำมั่นสัญญาที่จริงจังและเป็นจริงได้ ในช่วงต้นของการประชุมครั้งนั้น เยบเคลื่อนไหวระหว่างการอดอาหารสองสัปดาห์ และมีผู้คนทั่วโลกอีกหลายพันคนเข้าเป็นแนวร่วม
เยบได้กล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำที่กินใจที่กรุงวอร์ซอว์ หลังจากฟิลิปปินส์ประสบไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,000 คน ซึ่งครั้งนั้นเป็นพายุครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เยบได้ร้องขอให้ทุกประเทศดำเนินนโยบายที่จริงจังต่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เยบ กล่าวว่า "ประเทศที่ยากจนจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบมากขึ้นกว่านี้ หากเราไม่ยอมทำอะไรเสียที และขณะนี้ เป็นเวลาที่เราต้องทำอะไรสักอย่าง"
เยบ ร่วมงานกับกรีนพีซ ด้วยความเชื่อว่า ทางออกของวิกฤติเชิงนิเวศของโลก ไม่ได้จำกัดอยู่ในขอบเขตของอำนาจ แต่อยู่ที่การกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนระหว่างกันของคนทั่งโลก
"โลกของเรากำลังเผชิญกับการคุกคามที่เราต่างไม่เคยวพบเห็นมาก่อน จึงไม่น่ามีคำถามอีกต่อไปว่า เราต้องหาหนทางในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด นี่คือเหตุผลว่า ทำไม ผมจึงตัดสินใจร่วมงานกับกรีนพีซ
"ชัยชนะของการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะในวงล้อมขององค์กรต่างๆ ที่เราสร้างขึ้น หรือในขอบเขตประเทศของผมเท่านั้น เราทุกคนต่างหากที่เคียงข้างกันทำให้มันเกิดขึ้นได้ ผมไม่ได้แค่เข้าร่วมกับองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก ที่ผมชื่นชมที่สุด แต่ผมกำลังเข้าร่วมกับผู้คนอีกหลายล้านคน จากทั่วทุกมุมโลก ที่ทำให้ภารกิจขององค์กรแห่งนี้ เกิดขึ้นจริงได้"