กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
กรมส่งเสริมการส่งออก และผู้ประกอบการด้านสุขภาพและความงามของไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงาน “Thailand Health and Beauty Show 2005” เพื่อให้งานนี้ยิ่งใหญ่ ครบวงจรที่สุด และตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าสุขภาพและความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และโชว์ศักยภาพ ความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้คู่ค้าได้ทราบ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม — 4 กันยายนนี้ ที่ไบเทค บางนา
นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผู้ผลิตเครื่องสำอางของไทยมีการพัฒนาขึ้นมาก ทั้งในแง่ความรู้ ความสามารถ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต โดยผลิตภายใต้กฎเกณฑ์ของ EU ที่มีมาตรฐานในเรื่องความสะอาด เทคโนโลยี และความปลอดภัย ทำให้นานาประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกาหันมาจ้างประเทศไทยให้เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางมากขึ้น แม้แต่ญี่ปุ่นซึ่งเข้มงวดในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพ ยังยอมรับในศักยภาพของผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย จ้างให้ไทยผลิตเครื่องสำอางเพิ่มขึ้นทุกปี ด้วยเหตุนี้ ทำให้ประเทศไทยมีการส่งออกเพิ่มขึ้นปีละกว่า 20-25% โดยในปีที่ผ่านมา ส่งออกได้ถึง 48,000 ล้านบาท
“สำหรับงาน Thailand Health & Beauty Show ในปีนี้จะมีผู้ผลิตเครื่องสำอาง รวมไปถึงผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบและผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ มาร่วมแสดงสินค้ามากมาย ผู้ที่มาชมงานจะได้พบนวัตกรรมเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่พัฒนาโดยฝีมือคนไทย รวมถึงวัตถุดิบใหม่ๆ ที่ใช้ในวงการเครื่องสำอางก็จะมาเปิดตัวในงานนี้” นางเกศมณี กล่าว
นายวัชรพงษ์ พงษ์บริบูรณ์ นายกสมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพร เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีสมุนไพรกว่า 13,000ชนิด หากเปรียบเทียบสมุนไพรชนิดเดียวกันของไทยกับประเทศอื่น สมุนไพรไทยก็มีจุดเด่นตรงที่รสชาติดี นุ่มนวล และมีสารออกฤทธิ์สูง ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตไทยก็ยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบ คุณภาพและมาตรฐาน จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานระดับโลก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรของไทยมีการพัฒนาขึ้นมาก และมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากประเทศคู่ค้าทั้งในเอเชีย ยุโรป ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และอเมริกา
“การที่ผู้ประกอบการด้านสมุนไพรของไทยมาร่วมงาน Thailand Health & Beauty Show 2005 ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักสมุนไพรไทยมากขึ้น สำหรับปีนี้จะมีสมุนไพรใหม่ๆ มาโชว์หลายชนิด เช่น เปลือกมังคุดที่มีคุณสมบัติเป็นแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ดีที่สุดในโลก Tongat Ali ที่ช่วยบำรุงสุขภาพสำหรับเพศชาย เกสรดอกบัวหลวงและไพรทยอยที่ทำให้ผิวพรรณขาวสดใส และแมงลักคาที่มีฤทธิ์ช่วยรักษาไข้หวัดใหญ่” นายวัชรพงษ์ กล่าว
ทางด้านนายอภิชัย เจียรอดิศักดิ์ นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า ประเทศไทยได้ชื่อว่าเมืองหลวงของสปาแห่งเอเชีย เพราะมีสปามากที่สุดในเอเชียกว่า 450 แห่ง นอกจากนี้ สปาของไทยยังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ เพราะมีจุดเด่นที่สร้างความประทับใจถึง 4 ประการ สิ่งแรก คือ การบริการ ที่มีความอ่อนหวาน ยิ้มแย้ม สอง คือ สถานที่และการตกแต่ง ซึ่งมีเอกลักษณ์ความเป็นไทย สามคือ การนวดไทยที่มีชื่อเสียง สี่ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลูกประคบ และสมุนไพรพื้นบ้าน จากการสำรวจพบว่าปีที่ผ่านมา มีผู้มาใช้บริการสปาไทยถึง 3.3 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่า 7,000 ล้านบาท จากจุดเด่นของสปาไทย ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจ สปาที่มาร่วมงาน Thailand Health & Beauty Show ได้รับความสนใจจากผู้ชมงานมากเป็นพิเศษ ในปีนี้ จึงจัดให้มีกิจกรรมเกี่ยวกับ สปามากขึ้น เช่น มีสปาพาวิลเลียน 4 ภาค สาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์สปา สาธิตการนวดและการใช้สมุนไพร นอกจากนี้ แต่ละบูธก็จะมีสินค้าและการบริการใหม่มานำเสนอ เช่น มีการใช้สมุนไพรให้เหมาะกับธาตุเจ้าเรือนของแต่ละคน รวมทั้งจะมีแพ็กเกจสปาในราคาพิเศษสำหรับผู้ที่มาชมงาน
ทางด้านนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน แพทย์หญิงประภา วงศ์แพทย์ เปิดเผยว่า มั่นใจว่าจะมีผู้เข้ามาชมธุรกิจโรงพยาบาลของไทยในงาน Thailand Health & Beauty Show 2005 มากกว่าทุกปี ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่ โรงพยาบาลของไทยจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติทราบว่าไทยมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีสถานพักฟื้นร่างกายที่ดี ปลอดภัย และมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง นอกจากนี้ โรงพยาบาลของไทยหลายแห่งยังมีโรงแรมอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งหากผู้ที่มาใช้บริการต้องมาพักรักษาตัวระยะยาวหรือต้องการพาครอบครัวมาด้วยก็สามารถเข้าพักได้ สำหรับโรคที่ชาวต่างชาตินิยมเข้ามาใช้บริการจากโรงพยาบาลของไทย ได้แก่ ผ่าตัดหัวใจ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อ ศัลยกรรมตกแต่ง ทำฟัน ทำเลสิค เป็นต้น
“จากศักยภาพที่ดีของโรงพยาบาลไทย ทำให้ภาครัฐได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์แห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ Medical Hub of Asia ในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะปัจจุบัน ไทยมีโรงพยาบาล เอกชนประมาณ 300 แห่งมากที่สุดในเอเชีย มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในปีที่ผ่านมากว่า 9 แสนคน สำหรับปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีชาวต่างชาติมาใช้บริการ 1.1 ล้านคน และยังมีเป้าหมายว่าในปี 2553 จะมีชาวต่างชาติมาใช้บริการ 2 ล้านคน”
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Thailand Health and Beauty Show 2005 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ก่อนงาน (Pre-Register) ได้ที่ www.thaitradefair.com
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณอุษณีย์ ถาวรกาญจน์
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร.0 2354 3588 โทรสาร 0 2354 3590
Email : usanee@incom.co.th--จบ--