กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
ก.ล.ต.อนุมัติแบบไฟลิ่งและแบบอนุมัติคำขอกระจายหุ้น บมจ.ทีพีบีไอ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาสแรกปีนี้ ผู้บริหารชูจุดแข็งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการผลิตที่ทันสมัยและตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ชั้นนำทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ระดับโลก
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด (Mr. Tanachai Bunditvorapoom, Head of Investment Banking-Capital Market) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากที่ บมจ.ทีพีบีไอ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ทีพีบีไอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ บมจ.ทีพีบีไอ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100,000,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท
บมจ.ทีพีบีไอ เป็นผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล โดยให้บริการตั้งแต่การออกแบบและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ผลิตและจัดหาผลิตภัณฑ์ การทดสอบวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มลูกค้าห้างโมเดิร์นเทรดและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วโลก โดยมีกลุ่มสินค้า ได้แก่ หมวดถุงพลาสติกประเภทหูหิ้วที่บรรจุสิ่งของอุปโภคและบริโภคในการจับจ่ายใช้สอยในห้างโมเดิร์นเทรดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ถุงขยะที่ใช้ในครัวเรือนทั้งแบบชนิดม้วนและแบบพับ รวมถึงถุงพลาสติกชีวภาพที่วางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อภายใต้ แบรนด์ของลูกค้า
หมวดฟิล์มประเภท Multilayer Blown Film ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ซึ่งแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ ฟิล์มลามิเนตและฟิล์มแบริเออร์เหมาะสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ฟิล์มหุ้มเพื่อป้องกันฝุ่นและไอน้ำนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและ ผลิตปูนซีเมนต์ ส่วนฟิล์มหดใช้ห่อรัดในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องดื่มแบบขวด ขณะที่หมวดบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าบริโภคและอุปโภคเพื่อใช้ถนอมและยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปและถุงบรรจุขนมประเภทต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีหมวดบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจากการฝังกลบ ซึ่งมีทั้งชนิดที่ผลิตจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ถุงพลาสติกหูหิ้วและถุงขยะชีวภาพ และถ้วยกระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพอีกด้วย
"หลังจาก ก.ล.ต. อนุมัติแบบคำขอและแบบไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว บล.ทิสโก้จะร่วมกับ บมจ.ทีพีบีไอ กำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้น IPO ที่คาดว่าจะอยู่ประมาณไตรมาส 1 ปีนี้ ซึ่งเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ บมจ.ทีพีบีไอ เป็นผู้ประกอบการบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ โดยสามารถตอบโจทย์ความต้องการสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร จึงมั่นใจว่าหุ้น IPO ที่นำออกเสนอขายในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปเพิ่มกำลังการผลิต เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการและใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต" นายธนะชัยกล่าว
นายสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีพีบีไอ (Mr.Somsak Borrisuttanakul, Chief Executive Officer) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมมาบริหารจัดการด้านการผลิตรวมทั้งความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล เพื่อนำมาพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีรูปแบบหลากหลายภายใต้มาตรฐานการผลิตในระดับสากล โดยบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นที่ผลิตจากโรงงานต้องผ่านการควบคุมตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการ และเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งจากไทยและต่างประเทศเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินธุรกิจ ได้แก่ การจัดตั้งบริษัท ทีเอเค แพ็คเกจจิ้ง จำกัด เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัท คานาโอกะ จำกัด และกลุ่มบริษัท เอพีเอส จากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้ร่วมทุนกับบริษัท มินิมา เทคโนโลยี จำกัด ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพในประเทศไต้หวัน จัดตั้งบริษัท มินิมา (ประเทศไทย) จำกัด จำหน่ายเม็ดพลาสติกชีวภาพ
ขณะเดียวกัน ยังเข้าไปลงทุนถือหุ้นในบริษัท ทีเอ็มพี แพคเกจจิ้ง จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายถ้วยกระดาษและยังได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรชาวเยอรมันเพื่อจัดตั้งบริษัท ไทยเยอรมันรีไซเคิลเทคโนโลยี จำกัด ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากเศษพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภค (Post-Consumer Plastic Scrap) จึงทำให้กลุ่ม บมจ. ทีบีพีไอ สามารถให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ได้อย่างครบวงจร
ปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกครบวงจรรายใหญ่ในประเทศไทย มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 64,920 ตันต่อปี จากฐานการผลิต 2 แห่ง ได้แก่ ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตถุงพลาสติก หูหิ้ว ถุงขยะและฟิล์มที่ลักษณะงานมีรายละเอียดสูงและมีปริมาณงานไม่มากนัก กำลังการผลิตต่อปีอยู่ที่ 12,840 ตันและโรงงานที่จังหวัดระยอง เน้นรับงานผลิตสินค้าจำนวนมาก (Mass Production) เพื่อส่งให้กับลูกค้ารายใหญ่ เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศอียู ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและไทยโดยมีกำลังการผลิต 52,080 ตันต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กำลังการผลิตประมาณ 96 ล้านเมตรพิมพ์ต่อปีหรือประมาณ 192 ล้านซองต่อปีอีกด้วย
"เรามีศักยภาพในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลก ที่มีแนวคิดให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม เราจึงได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Products เพื่อสอดรับแนวโน้มความต้องการของตลาดโลกที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อันนำไปสู่การสร้างความมั่นคงให้บริษัทฯ และร่วมเติบโตไปกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้นและสังคมอย่างยั่งยืน" นายสมศักดิ์ กล่าว