กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
ชมรมมุสลิม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ลงพื้นที่ มัสยิดอัลมาดานี อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จัดสร้างห้องน้ำและสถานที่อาบน้ำละหมาด 9 ห้อง ในโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบทและสานความรู้สู่น้อง
"นาอีม" นายวิวัฒน์ ละม้าย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ประธานค่ายมุสลิม เล่าว่า หลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ที่สอนให้ทุกคนปฏิบัติแต่ความดีละเว้นความชั่ว และให้ยึดถือหลักคำสอนของศาสนาที่ถูกต้องเป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิต เพื่อขัดเกลาจิตใจให้มีคุณธรรมและจริยธรรม และสังคมไทยมีแต่ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งศาสนาอิสลามเองก็ได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในเรื่องการช่วยเหลือกันและกันในสังคม และมีบัญญัติไว้ในหลักปฏิบัติที่จำเป็น (วาญิบ) ให้มุสลิมต้องให้ทาน (ชะกาต) หรือให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่เดือดร้อน โดยค่ายมุสลิม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ได้จัดโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบทและสานความรู้สู่น้อง ร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่มัสยิดอัลมาดานี อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จัดสร้างห้องน้ำและสถานที่อาบน้ำละหมาดให้กับทางมัสยิดทั้งหมด 9 ห้อง โดยมีสมาชิกอาจารย์และนักศึกษาเข้าร่วมโครงการประมาณ 50 คน ความเป็นอยู่ในค่ายอยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง "ฝากถึงคนรุ่นหลังๆ หรือผู้ที่สนใจในเรื่องจิตอาสาว่าการที่ได้มาทำงานตรงนี้ถือว่าพวกท่านไม่ได้คิดถึงเรื่องส่วนตัวมากกว่างานอาสา เพราะ งานอาสาเกิดขึ้นและสมบูรณ์ได้ต้องมีจิตอาสา"
"นาบิ้ล" นายนวพล หนูทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิศวกรรมพลาสติก คณะวิศวกรรมศาสตร์ เล่าว่า "ผมชอบทำกิจกรรมได้ลงพื้นที่ ได้พูดคุยกับชาวบ้าน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชุมชนนั้นๆ นอกจากนนี้ยังได้รู้จักเพื่อนต่างคณะด้วย" ในการสร้างห้องน้ำให้มัสยิด ที่ขาดแคลนทางด้านทุนทรัพย์ เป็นสิ่งที่ดีมาก เนื่องจากมัสยิดเป็นสถานที่สำหรับการสักการะต่อพระเจ้า เป็นศูนย์รวมชุมชน โดยตนเองได้เข้าร่วมโครงการอาสาพัฒนาชนบทและสานความรู้สู่น้องกว่า 3 ปี ที่เข้ามาศึกษาที่นี่ งานก่อสร้างตั้งแต่เริ่มโครงสร้าง จนกลายเป็นห้องน้ำที่สามารถใช้งานได้แล้ว ยังให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับศาสนาอิสลามให้กับนักเรียนบริเวณชุมชนอีกด้วย ภาพความสุขของชาวบ้าน จากการออกค่ายคือความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งในชีวิตที่ได้ร่วมทำประโยชน์ ซึ่งในประเทศไทยยังมีมัสยิดที่ขาดแคลนและต้องการความช่วยเหลืออีกมาก
"ฟาติมะฮ์" นางสาวพุ่มพวง มาสมาน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะบริหารธุรกิจ เล่าว่า สำหรับหน้าที่เริ่มตั้งแต่หาทุนช่วยเหลือ โดยไปยืนรับบริจาคตามตลาดนัด ตามสถานที่ต่างๆ เมื่อมาที่ค่ายช่วยดูแลเรื่องในครัว ช่วยทำอาหาร เสร็จจากงานครัวจะออกไปช่วยทำความสะอาดบริเวณค่าย และช่วยส่งของขณะทำการก่อสร้าง เมื่องานเสร็จออกไปพูดคุยกับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ฝากถึงรุ่นน้องมุสลิมที่เข้ามาเรียนใน มทร.ธัญบุรี อยากให้น้องๆ มาร่วมกิจกรรมทุกๆ กิจกรรมที่ทางชมรมจัด เพื่อจะได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในค่าย ได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งหาไม่ได้ในห้องเรียน ซึ่งกิจกรรมจะเป็นตัวหล่อหลอมให้ทุกคนเป็นคนที่รู้จักให้ เป็นคนดีมีคุณธรรม
"คอดีเยาะห์" นางสาวสายทิพย์ ปิ่นสุข นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ เล่าว่า 20 วันที่ได้ออกค่าย ซึ่งค่ายนี้ห่างไกลเมือง ต้องออกไปซื้ออาหารเพื่อนำมาปรุงอาหารถึง 20 กิโลเมตร ต้องออกไปตลาดทุกวัน เพราะว่าไม่มีตู้เย็น วิถีชีวิตของชุนชนนี้จะมีชาวพม่าที่เข้ามาประกอบอาชีพ แต่ชาวไทยมุสลิมและชาวพม่าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข สร้างรอยยิ้มให้กับตนเองเป็นอย่างมาก และต้องขอขอบคุณท่านอิหม่ามสมาน ประจำมัสยิดที่ให้ความช่วยเหลือชาวค่าย ประสบการณ์ที่ได้รับจากการออกค่ายแต่ละครั้ง ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่สุด การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยคุ้มค่าทั้งการเรียนทั้งการทำกิจกรรม สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพทั้งความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน
สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่ด้วยความเอื้ออาทร ซึ่งจะอยู่กันแบบญาติพี่น้องมาตั้งแต่อดีต มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามทุกข์ยาก เช่นเดียวกับชมรมมุสลิม มทร.ธัญบุรี ฝึกให้นักศึกษามีจิตสำนึกที่จะเสียสละในการทำประโยชน์ให้กับสังคม ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักศึกษาและชุมชน จากการสอบถามความต้องการของคนในชุมชน ทางชุมชนต้องการหนังสือเรียนทางศาสนา ผู้สนใจอยากสมทบทุนในการออกค่ายครั้งต่อไป หรือบริจาคหนังสือศาสนา สามารถบริจาคได้ที่ ชมรมมุสลิม องค์การนักศึกษา มทร.ธัญบุรี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประธานชมรมมุสลิม นายวิวัฒน์ ละม้าย โทร.088-6398131