กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--บลจ.กสิกรไทย
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทยมีกำหนดจะจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 - 31 มกราคม 2559 โดยกองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 192.69 ล้านบาท
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน K-USA ในปี 2558 ที่ผ่านมาสามารถสร้างผลผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และเอาชนะตลาดหุ้นสหรัฐฯในภาพรวมทั้งปีที่ปรับตัวเป็นบวกได้เพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.66% ขณะที่กองทุน K-USA ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี – วันที่ 30 ธันวาคม 2558 อยู่ที่ 12.99% และถือว่ามีผลการดำเนินงานดีสุดเป็นอันดับที่ 1 ของอุตสาหกรรมในกลุ่มกองทุนหุ้นสหรัฐ (ข้อมูลจาก Morningstar® ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58) ทั้งนี้ผลงานที่โดดเด่นเกิดจากความสามารถของทีมบริหารจัดการกองทุนหลักที่มีการคัดเลือกหุ้นได้อย่างเหมาะสม ซึ่งกองทุนหลักได้รับการบริหารจัดการโดย Morgan Stanley นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์มาจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการใช้งานอินเตอร์เนตที่เพิ่มมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
ด้านมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ นายนาวินกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้ดีโดยเฉพาะจากภาคการบริโภคและภาคบริการ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ส่วนอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ถือว่าอยู่ในระดับเต็มศักยภาพของเศรษฐกิจ (Full Employment) เห็นได้จากตัวเลขการว่างงานที่อยู่ในระดับ 5% ติดต่อกันตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2558 ทั้งนี้ประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจและจะต้องจับตามองคือ
จังหวะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งถึงแม้ว่าผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ล่าสุดในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) จะมีมุมมองที่เป็นบวกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ในอัตราปานกลาง แต่ปัจจัยที่ยังมีความกังวลมาจากภายนอกประเทศ อาทิ สถานการณ์ความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่ยังมีอยู่สูง ปัจจัยลบเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำจนกดดันอัตราเงินเฟ้อในวงกว้าง ทำให้ตลาดต่างคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ยากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปี 2559 นี้ จากที่ตลาดได้เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เห็นได้จากข้อมูลของ Bloomberg ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 พบว่ามีนักลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 51% คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2559 FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25% – 0.5% ดังนั้นหาก FED ยังคงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก แต่หาก FED มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดจะส่งผลกระทบทำให้เกิดความผันผวนต่อตลาดการเงินทั่วโลกรวมถึงส่งผลลบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯเอง"
ส่วนมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บลจ.กสิกรไทยมองว่า แม้ว่าระดับราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงมาพอสมควร โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันระดับราคาของตลาดหุ้นสหรัฐฯถือว่าซื้อขายอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและใกล้เต็มมูลค่า ทำให้ความน่าสนใจลงทุนน้อยลงจากอัตราการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ลดลงหลังธนาคารกลางสหรัฐฯได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยราคาหุ้นสหรัฐปัจจุบันมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ(Forward P/E) อยู่ที่ 15.84 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปีที่ 14.98 เท่า (ที่มา: Bloomberg 2 ก.พ. 59)
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-USA สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888
กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)
K-USA 1 พฤษภาคม 2558 - 31 มกราคม 2559 0.30
*คิดจาก NAV วันที่ 29 ม.ค. 59
**ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต