กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดประกันชีวิตตั้งแต่ต้นปี โดยมุ่งนำเสนอ แบบประกันชีวิตผ่านหลากหลายช่องทาง เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยวางแผนทางการเงินในระยะยาว และเป็นหลักประกันความมั่นคงที่พร้อมรองรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดชุดใหม่ "รักใคร ให้ประกัน" เพื่อนำเสนอทางเลือกความคุ้มครองชีวิตสำหรับ 4 โจทย์ความต้องการด้านวางแผนการเงิน พร้อมความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุ ได้อย่างครอบคลุมและตรงใจ ทั้งยังเป็นของขวัญมากคุณค่าที่แสดงออกถึงความรัก และความผูกพันที่มีต่อคนสำคัญ
กลุ่มแรก สำหรับคนรักลูกดุจแก้วตาดวงใจ ให้ "สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ สมาร์ทเฮลท์" แนบกรมธรรม์ เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่วัยทำงานที่ต้องการความมั่นใจว่าลูกรักจะสามารถเข้าถึง การรักษาที่ดีเมื่อเจ็บป่วย ด้วยความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมารวม ทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงสุด 10,000 บาท*ต่อวัน และหากมีค่ารักษาต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาล ยังสามารถเบิกได้สูงสุดถึง 5,000 บาท*ต่อครั้ง รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 70 ปี (*สำหรับสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบสมาร์ทเฮลท์ แผน 5)
พิเศษ..สำหรับลูกค้าที่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ สมาร์ทเฮลท์ ผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิตและชำระเบี้ยประกันภัยรายปี ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม - 31 มีนาคม 2559 รับฟรีบัตรของขวัญเทสโก้ โลตัส (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
กลุ่มต่อมา สำหรับคนรักครอบครัว ให้ "โครงการเมืองไทยรับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7" เหมาะสำหรับวัยที่กำลังสร้างครอบครัว สร้างหลักประกันเพื่อความมั่นคงของครอบครัวและคนรัก รวมถึงสร้างหลักประกันให้ลูกหลานในอนาคต ด้วยความคุ้มครองชีวิตระยะยาวจนครบอายุ 90 ปี แต่ชำระเบี้ยประกันภัยระยะสั้นเพียง 7 ปีทั้งได้รับเงินจ่ายคืนต่อเนื่องตลอดจนครบสัญญา รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 70 ปี หรือเลือกให้ "เมืองไทยคุ้มครองตลอดชีพ 99/20" ซึ่งมีจุดเด่นที่การชำระเบี้ยประกันภัยแบบสบายกระเป๋า แต่ได้รับความคุ้มครองชีวิตที่ยาวนานจนครบอายุ 99 ปี รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 65 ปี
กลุ่มที่ 3 สำหรับคนรักพ่อแม่ ให้ "โครงการเมืองไทยวัยเก๋าคุ้มทั่วไทย (เพื่อผู้สูงอายุ)" เหมาะสำหรับ วัยทำงานที่มีคุณพ่อคุณแม่อายุ 50-75 ปี เพื่อคลายกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุด้วยความคุ้มครองชีวิต (กรณีเสียชีวิตจากเจ็บป่วย 2 ปีแรก จะได้รับเงินเท่ากับเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระมาแล้ว บวกด้วยเงินเพิ่ม 2% ของเบี้ยประกันดังกล่าว และในปีกรมธรรม์ที่ 3 เป็นต้นไป หรือมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา จะได้รับเต็มตามจำนวนเงินเอาประกันภัย) พร้อมค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 25,000 บาท** โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงแค่ยื่นบัตรประจำตัวผู้เอาประกันคู่กับบัตรประชาชน เมื่อใช้บริการในโรงพยาบาลคู่สัญญาและในกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ รับเงินชดเชยรายวัน สูงสุดวันละ 2,500 บาท** นานสูงสุด 365 วัน และรับเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อรักษาตัวในห้อง ICU นานสูงสุด 7 วัน โดยผลประโยชน์เงินชดเชยรายวันรวมสูงสุดไม่เกิน 365 วัน (**สำหรับโครงการเมืองไทยวัยเก๋าคุ้มทั่วไทย (เพื่อผู้สูงอายุ) แผน 5 และ 6 ความคุ้มครองชีวิต 500,000 บาท)
กลุ่มสุดท้าย สำหรับคนรักตัวเอง ให้ "เมืองไทย สมาร์ท เซฟวิ่ง 10/6"ได้ช่วยเก็บออมอย่างมีวินัย เพื่อสานฝันในอนาคต ด้วยความคุ้มครองชีวิตนาน 10 ปี แต่ชำระเบี้ยเพียง 6 ปี พร้อมรับเงินจ่ายคืนทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 ปีละ 10%*ผลประโยชน์รวมตลอดสัญญา สูงถึง 700%*และความคุ้มครองชีวิต สูงสุดถึง 600%*นอกจากนี้ เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระยังสามารถนำมาใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรได้อีกด้วย รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 80 ปี (*เป็น % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา)
- การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
- ผู้สนใจควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
"เมืองไทยประกันชีวิต ให้ความสำคัญกับนโยบาย "ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" โดยเฉพาะในด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ จะต้องสอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งมั่นใจว่านโยบายนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งจะนำไปสู่เป้าหมายของบริษัทฯ ในปี 2559 ที่คาดว่าจะสามารถสร้างเบี้ยประกันชีวิตรับรวม กว่า 100,000 ล้านบาท" นายสาระ กล่าว.