กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--Up5
GENCO จัดพิธีลงนามสัญญาซื้อเครื่องจักรผลิตเชื้อเพลิงพลังงานระหว่าง บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) GENCO ร่วมกับบริษัท บีเอ็มเอช เทคโนโลยี โอวาย จำกัด จากประเทศฟินแลนด์ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกากอุตสาหกรรม
บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) รณชัย ตันตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯที่ดำเนินธุรกิจบำบัดกากอุตสาหกรรมอันตรายมาร่วมยี่สิบกว่าปีและเป็นที่รู้จักในภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี ล่าสุดได้ทำการลงนามเซ็นสัญญาสั่งซื้อเครื่องจักรผลิตเชื้อเพลิงพลังงานจากกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย ระหว่าง บริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO กับ BMH Technology บริษัท บีเอ็มเอช เทคโนโลยี จำกัด จาก ประเทศฟินแลนด์ โดยมีดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อนซึ่งการลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องจักรของบริษัท BMH Technology นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสายงานธุรกิจของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจากการรับบำบัดกากอุตสาหกรรมอันตราย มาเป็นการรับบำบัดกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายซึ่งมีปริมาณหลายสิบล้านตันต่อปีและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศอันเนื่องจากมากการไม่บำบัดและกำจัดอย่างถูกวิธี บริษัทฯจึงมีแนวความคิดที่จะนำเอากากอุตสาหกรรมไม่อันตรายมาเข้าสู่ระบบโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงพลังงานเพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าและโรงปูนซีเมนต์ เป็นการขยายฐาน ธุรกิจและเป็นการช่วยภาครัฐ ปกป้องสิ่งแวดล้อมในปัญหา ของกากบำบัด และกำจัดกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายที่ไม่ถูกต้องด้วย
ด้านผู้ช่วยศาตราจารย์พิเศษ รณชัย ตันตระกูล กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวถึงวัตุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า" เรามุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจและเป็นผู้ผลักดันในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และเนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว การซื้อเครื่องจักรที่มีราคาสูงและมีคุณภาพจำเป็นอย่างยิ่งภาวะการณ์ ปัจจุบันในประเทศไทยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากกากอุตสาหกรรมและแนวทางการแก้ไขปัญหากากอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นกากอันตรายและไม่อันตรายที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีแต่ยังมีจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบของการกำจัดและบำบัดที่ถูกต้อง รัฐบาลปัจจุบันจึงนำมาเป็นวาระแห่งชาติเพื่อที่จะละปริมาณกากที่ไม่เข้าระบบให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้จำเป็นต้องมาจากภาครัฐที่จะต้องมีความเข้มงวดตรวจสอบและจับกุมผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย สำหรับผู้ประกอบการนั้นจะต้องมีจิตสำนึกถึงสิ่งแวดล้อมของชาติด้วย ควรที่จะยอมปฏิบัติตามกฎหมาย และสุดท้ายคือผู้ที่ให้บริการบำบัดและกำจัดจะต้องมีจรรยาบัญในการปฏิบัติให้ถูกต้องและถูกวิธีการ"
นอกจากนี้ทาง ด้านนายอิทธิฤทธิ์ วิภูศิริ รองกรรมการผู้จัดการ ยังได้ทำการวิเคราะห์ภาพรวมทิศทางและนโยบายการบริหารงานและการตลาดของบริษัทว่า" เราให้บริการบำบัดกากอุตสาหกรรมในประเทศไทยรายอื่นๆคู่แข่งขันของบริษัทฯที่ใกล้เคียงกันมีไม่กี่รายในตลาด สำหรับรายเล็กนั้นมีมากมาย การแข่งขันจะเป็นการลดราคาหรือการตั้งราคาต่ำเป็นหลัก ทางบริษัทฯไม่สามารถแข่งขันทางด้านราคาถูกได้เนื่องจากต้นทุนของการบำบัดและกำจัดสูง มีมาตรฐานสากลและถูกควบคุมกำกับโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ใช้ในการปฏิบัติการด้วย ดังนั้นราคาค่าบริการของบริษัทฯจะสูงกว่าคู่แข่งขัน ซึ่งงบประมาณในการลงทุนสำหรับโครงการ ผลิตเชื้อเพลิงพลังงานจากกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายนี้ ขั้นต้นประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดประชาสัมพันธ์ เรายังไม่ได้ดำเนินการในช่วงนี้จนกว่าการก่อสร้างและการติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2559"
"ในส่วนของกลยุทธ์ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญ คือการบำบัดกากอุตสาหกรรมไม่อันตรายในราคาไม่สูงเพื่อช่วยลดปัญหาการลักลอกนำกากไปทิ้งหรือการไม่ปฏิบัติที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันเชื้อเพลิงที่ผลิตออกมาจะเป็นการผลิตตามความต้องการของลูกค้า ผลประกอบการในภาพรวมธุรกิจบำบัดกากของเสียอุตสาหกรรมของบริษัทฯในปีที่ผ่านมายังเติบโตอย่างมั่นคง ลูกค้าที่ไม่ต้องการมีปัญหากับทางภาครัฐในเรื่องการบำบัดไม่ถูกวิธีก็เริ่มเข้ามาใช้บริการของบริษัทฯมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้บริษัทฯได้เพิ่มสายงานธุรกิจพลังงานทางเลือกขึ้นมาอีกสายงานหนึ่ง โดยได้เริ่มด้วยธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงพลังงานจากกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย (Refuse Derived Fuel :RDF) นอกจากนั้นยังมีฝ่ายพลังงานไฟฟ้าจากขยะ พลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นต้น"