EVER เปิดโครงการใหม่ “เดอะโพลิแทน รีฟ” กระแสแรงสุดขีด หนุนยอดขายโต เตรียมเทิร์นอะราวด์ภายใน 1-2 ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 10, 2016 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--IR PLUS EVER เตรียมเทิร์นอราวน์ หลังเปิดตัวโครงการใหม่ "เดอะ โพลิแทน รีฟ" ในทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประสบความสำเร็จ ปัจจุบัน มียอดจองกว่า 70% เรียบร้อยแล้ว หลังเปิด Pre sale ไม่ถึงเดือน เชื่อทั้งโครงการปิดยอดจองภายในครึ่งปีแรกนี้ สร้างยอดขายเกือบ 6.3 พันลบ. พร้อมเตรียมเปิดเฟส 2 ต่อเนื่องทันที "สวิจักร์ โลจายะ" แม่ทัพใหญ่ เผย อยู่ระหว่างพิจารณาขอเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตของโครงการดังกล่าว จะสามารถสร้างยอดขายและกำไรได้สูง อีกทั้ง ที่ดินมีจำนวน 50ไร่ สามารถรองรับการขยายได้อีก หนุนการรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จแล้วรอรับรู้รายได้อีกหลายโครงการ รวมทั้งการเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาอยู่จำนวน 2- 3 ดีล สนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้สามารถเทิร์นอะราวด์ได้ นายสวิจักร์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ผู้ประกอบธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีโครงการตั้งอยู่หลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในชื่อ "เดอะโพลิแทน รีฟ" (The Politan Rive) โดยใช้งบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท ได้จัดกิจกรรม Pre Sale ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้ามาจองห้องเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมียอดจองแล้ว 74% หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายประมาณ 4,080 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการกว่า 6,280 ล้านบาท ตั้งเป้าจะสามารถปิดการขายหมดทั้งโครงการภายในครึ่งปีแรกนี้ พร้อมรับรับรู้รายได้ในปี 2562 ทันที ทั้งนี้ โครงการ เดอะโพลิแทน รีฟ ซ.นทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 56 ชั้น และ Sky Lounge อีก 1 ชั้น จำนวน 2,351 ยูนิต ใช้พื้นที่โครงการ 9 ไร่ 3 งาน 37.6 ตารางวา เจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนพื้นที่ โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาสที่ 1/2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ด้วยราคาเริ่มต้นจูงใจผู้ซื้อเพียง 1.29 ล้านบาท "กระแสตอบรับในโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยจุดแข็งของโครงการ ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย (สีม่วง และสีชมพู) ที่จะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้ อีกทั้ง ยังเป็นเพียง 1 ใน 3 โครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีรถไฟฟ้ากับแม่น้ำเจ้าพระยาตัดกัน จึงมั่นใจจะสามารถสร้าง Backlog จากทำเลทองผืนนี้ได้จำนวนมาก ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ บริษัทฯ ก็เตรียมจะเปิดเฟส 2 ต่อทันทีในที่ดินผืนเดิมที่เรามีทั้งหมด 50 ไร่ เข้ามาสนับสนุนภาพรวมบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป" นายสวิจักร์ กล่าว นายสวิจักร์ กล่าววต่ออีกว่า จากความได้เปรียบในเรื่องทำเลของโครงการ บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะสร้างโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ เฟส 2 ต่อเนื่องทันทีในช่วงปลายปีนี้ เพื่อสนับสนุนยอดขายบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่ง โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวรวมทั้ง 2 เฟส จะสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ถึงประมาณ 17,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปี 2562 ประมาณ 7- 8 พันล้านบาท ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 อีก 7 – 8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ในปี 2564 บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะเพิ่มทุนในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 เพื่อเอาเงินมาสร้างโครงการดังกล่าว แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ ก็ยังอยู่ในช่วงของการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อวางแผนว่าควรจะสัดส่วนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ ถือหุ้นด้วย อย่างไรก็ตาม EVER ยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ในมืออีกหลายโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และพร้อมที่จะรับรู้รายได้เข้ามาทันที อาทิ โครงการบ้านเดี่ยว บนถนนหทัยราษฏร์, โครงการ My Home Silver Lake บนถนนสุวินทวงศ์ 78, โครงการคอนโดมิเนียม My Resort หัวหิน เป็นต้น รวมทั้ง บริษัทฯ ยังได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล และมีรายได้เข้ามาสนับสนุน โดยปัจจุบันบริษัทฯกำลังศึกษาการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลขนาดกลางประมาณ 100 – 150 เตียง ในต่างจังหวัด ที่มีกำไรและมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอีก 2 – 3 ดีล คาดเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ สนับสนุนภาพรวมธุรกิจปี 2559 เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถกลับมาเทิร์นอะราวด์ภายใน 1-2 ปีนับจากนี้ "ภาพรวมธุรกิจอสังหาริทรัพย์ในปีนี้ มองว่าจะเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เข้ามาสนับสนุน รถไฟฟ้าที่ทยอยก่อสร้างและแล้วเสร็จ สนับสนุนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้มีการเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ซื้อ สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมั่นคง และสามารถขยายกิจการ หรือทำอะไรเพิ่มเติมได้อีกมาก เพื่อสร้างฐานคนไข้ได้มากขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลอยู่ ที่ร้อยละ 70 : 30 และตั้งเป้ายังคงสัดส่วนนี้ต่อเนื่องในอนาคต ด้วยเป้าหมายแรกคือการเทิร์นอะราวด์บริษัทฯ ให้มีกำไร สร้างความเข้มแข็งให้เอเวอร์แลนด์ยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทีมงานที่เป็นมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ เข้ามาช่วยบริหาร จึงมั่นใจจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวังอย่างแน่นอน" นายสวิจักร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ