กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เยี่ยมชม การดำเนินงานของอุทยานมิตรผล อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตน้ำตาล ไฟฟ้าชีวมวล และเอทานอล รวมถึงรูปแบบการบริหารจัดการไร่อ้อยภายใต้โมเดลการจัดการเกษตรสมัยใหม่ (ModernFarm) สะท้อนเจตนารมณ์ในการสนับสนุนโครงการ "1 ตำบล 1 SME เกษตร" ตามแนวนโยบายประชารัฐ สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและชุมชนอย่างยั่งยืน
นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจกลุ่มงานอ้อย กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า "เราดำเนินธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โมเดลการจัดการเกษตรสมัยใหม่ (ModernFarm) นับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ลดต้นทุน พัฒนาคุณภาพของผลผลิต รักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการร่วมสนับสนุนและสานพลังตามแนวนโยบายประชารัฐ สร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้โครงการ "1 ตำบล 1 SME เกษตร" ของรัฐบาล"
โดยเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา กลุ่มมิตรผล ได้ร่วมลงนามความร่วมมือในโครงการ "1 ตำบล 1 SME เกษตร" เพื่อสนับสนุน SME เกษตร กับ 6 ภาคีจากภาครัฐและภาคประชาชน ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคาร ออมสิน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย ผ่านการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Smart Farmer เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย โมเดลการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยและชุมชนด้วยการจัดการแบบเกษตรสมัยใหม่ (ModernFarm) ของกลุ่มมิตรผล ครอบคลุมสำหรับเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่
ชาวไร่อ้อยรายเล็ก – ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอ้อย 1-50 ไร่ ใช้โมเดลการปลูกพืชเชิงผสมเพิ่มเติมจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทั้งปลูกอยู่ และปลูกกิน เพื่อสร้างรายได้ ลดรายจ่าย เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว และ
การเลี้ยงปลา เลี้ยงสุกร หรือไก่ไข่ เพิ่มเติมในพื้นที่ไร่ของตนเอง นอกจากนั้น ยังเกิดการรวมกลุ่มชาวไร่อ้อยรายเล็กด้วยกัน เพื่อรับบริการการทำงานในไร่อ้อยจากชาวไร่อ้อยขนาดกลาง ทั้งการปลูก บำรุง และเก็บเกี่ยว เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการจ้างผู้รับเหมาและได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพ
ชาวไร่อ้อยรายกลาง – ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอ้อย 50-250 ไร่ ใช้โมเดลการพัฒนาสู่การเป็น SME ผู้ให้บริการชาวไร่รายเล็ก ด้วยแนวทางการส่งเสริมให้มีใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร และพัฒนา เพิ่มมูลค่าของเครื่องจักรกลเกษตรด้วยธุรกิจการเป็นผู้รับเหมา ทำงานในไร่อ้อยให้กับชาวไร่อ้อย ขนาดเล็ก ทั้งการปลูก บำรุง และเก็บเกี่ยว เพื่อพัฒนาสู่การเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ (Smart Farmer)
ชาวไร่อ้อยรายใหญ่ – ซึ่งมีพื้นที่ปลูกอ้อยมากกว่า 250 ไร่ขึ้นไป ใช้โมเดลการเกษตรสมัยใหม่ แบบ ModernFarm ซึ่งเป็นการนำองค์ความรู้ระดับเวิลคลาสจากประเทศออสเตรเลียเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ยังส่งเสริมให้มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการผลิตแบบแปลงใหญ่ อาทิ การรวมการผลิต การทำฟาร์มแบบแม่นยำ (Precision Farming) และการเทียบเคียงสิ่งที่ดีที่สุด (Benchmarking)
การดำเนินงานโครงการการจัดการแบบเกษตรสมัยใหม่ (ModernFarm) ของกลุ่มมิตรผล ก่อให้เกิดประโยชน์และความยั่งยืนในชุมชน อันเห็นได้จากการที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำไร่อ้อย ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นหมุนเวียน เพราะคนในท้องถิ่นมีงานทำ ไม่ต้องละทิ้ง ถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมือง และยังเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรของไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผล ยังมีระบบการส่งเสริมชาวไร่อ้อยอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ การสนับสนุนเงินส่งเสริมในรูปแบบสินเชื่อระยะสั้นเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิต พันธุ์อ้อย ดิน ปุ๋ย สารควบคุมวัชพืช สินเชื่อระยะกลางเพื่อส่งเสริมระบบชลประทานขนาดเล็กและอุปกรณ์ชลประทาน และสินเชื่อระยะกลาง-ยาว เพื่อส่งเสริมเครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดจนการให้ความรู้และเพิ่มประสบการณ์แก่เกษตรกร จนถึงการรับซื้อผลผลิตอย่างเป็นธรรม