กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--เอสเอ็มอีแบงก์
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่าผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 ได้มีมติให้ขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Policy Loan) ของเอสเอ็มอีแบงก์ ซึ่งจากเดิมได้สิ้นสุดรับคำขอกู้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2558 ขยายไปถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2559 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ต่อไป
สำหรับสินเชื่อ Policy Loan นั้น เป็นสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินอื่น ให้มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐเพิ่มมากขึ้น โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ 4% คงที่เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นปีที่ 4 และ 5 อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่MLR ต่อปี นอกจากนี้ ถ้าผู้ประกอบการ SMEs กู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ยังสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ บสย. ในช่วงปีที่ 1 อีกด้วย จากที่ปกติจะเสียค่าธรรมเนียมในอัตรา 1.75% ของวงเงินค้ำประกัน และปีที่ 2 และ 3 ผู้ประกอบการจ่ายเพียง 1% เท่านั้น
ทั้งนี้ ยอดวงเงินสินเชื่อ Policy Loan 15,000 ล้านบาท ณ 31 ธ.ค. 2558 เอสเอ็มอีแบงก์ ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 4,689.75 ล้านบาท จำนวน 1,344 ราย โดยมียอดเบิกจ่ายเงินกู้ 3,078.08 ล้านบาท และมีวงเงินโครงการคงเหลืออยู่จำนวน 10,310.25 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นหลัก นอกนั้นก็ปล่อยสินเชื่อให้ SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และSMEs ที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มสามารถเติบโตไปสู่ขนาดกลาง รวมถึง ผู้ประกอบการใหม่ที่มีนวัตกรรม ตามลำดับ โดยเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยเฉลี่ยวงเงินขอกู้ต่อรายประมาณ 3.3 ล้านบาท กระจายการปล่อยกู้ไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยประเภทธุรกิจที่มีการขอกู้สูงสุดคือธุรกิจด้านค้าส่งและค้าปลีก และภาคการผลิต ธนาคารขอเชิญชวนผู้ประกอบการมาใช้บริการโดยสามารถติดต่อได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1357