กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐเอกชนและ 17 ช่องทางการจัดจำหน่ายชั้นนำ จัดงาน SME Business Matching Day มหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติ ร่วมกันสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีในการขยายตลาด เพิ่มโอกาสและสร้างยอดขายตั้งเป้ามีผู้เข้าร่วมจับคู่ธุรกิจ 500 ราย
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่างาน SME Business Matching Day มหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติ ถือเป็นโครงการแรกภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในส่วนของ Big Brother (พี่ช่วยน้อง) ของคณะสานพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายชั้นนำ และเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย เพราะการขยายตลาดเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของธุรกิจเอสเอ็มอี แม้ว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะมีของดี แต่ขาดช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้
สำหรับงาน SME Business Matching Day จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยในปีแรกได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นจำนวนมาก และในปีนี้งานมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น เพราะเป็นการผนึกกำลังร่วมกันทั้งภาครัฐ และ เอกชน อาทิ สสว. หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และโพสต์พับลิชชิงรวมทั้งยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายชั้นนำระดับประเทศมากถึง 17 ช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมถึงผู้บริโภคที่อยู่ในเขตการค้าชายแดน ซึ่งได้รับผลดีจากการเปิด AEC และการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ขยายตัวอย่างมากจากการเติบโตของดิจิตอลโดยงานจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 26 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 8.00 – 19.00 น. ณ ห้องบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม 3 ส่วน ได้แก่กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ มีช่องทางการจัดจำหน่ายร่วมงานจำนวน 17 รายแบ่งเป็น 3 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย 1.ช่องทางค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ได้แก่ CP All (24 Shopping) Loxley Makro Tesco Lotus Tops และ TV Direct 2.ช่องทางออนไลน์ ได้แก่ Central Online Ensogo truemart Lazada Rakuten และ Weloveshopping และ 3.ช่องทางค้าปลีกค้าส่งท้องถิ่น ได้แก่ CJ Express เล้งเส็ง ซุปเปอร์สโตร์ Supercheap ตั้งงี่สุน ซุปเปอร์สโตร์ และธนพิริยะ นอกจากนี้ยังมี การให้องค์ความรู้ ด้วยหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กเข้าใจการทำธุรกิจกับช่องทางจัดจำหน่ายแต่ละราย และวิธีการในการทำธุรกิจกับช่องทางเหล่านี้อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
กิจกรรมสุดท้ายคือ การให้คำปรึกษาที่มีหน่วยงานสำคัญมาร่วมเป็นพันธมิตร คือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมถึงพันธมิตรอื่น ๆ ที่จะมาให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจ สามารถลงทะเบียนผ่าน www.ksmematching.com ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2559 หรือลงทะเบียนเพื่อร่วมเข้าฟังสัมมนา ได้ที่ 02-616-4404 หรือ 02-616-4447
นายพัชรกล่าวว่างาน SME Business Matching Day มหกรรมจับคู่ดี SME แห่งชาติถือเป็นกิจกรรมจับคู่ธุรกิจเพื่อเอสเอ็มอีไทยครั้งยิ่งใหญ่ระดับชาติ ได้รวมช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีศักยภาพไว้มากถึง 17 ราย ซึ่งล้วนเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่เอสเอ็มอีส่วนใหญ่สนใจนำสินค้าและบริการเข้าจำหน่ายมากที่สุด การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีโอกาสพบปะช่องทางจัดจำหน่ายได้เร็วขึ้นกว่าการเข้าไปนำเสนอสินค้าด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้หลายช่องทางภายใน 1 วัน คาดมี เอสเอ็มอีเข้าร่วมงานกว่า 500 ราย