กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--บ้านพีอาร์
บรรยากาศเช้านี้ดูสดใสมีชีวิตชีวา คงเป็นเพราะเราได้มาอยู่ท่ามกลางผีเสื้อแมลงที่มีปีกสีสันสวยงาม ในงานนิทรรศการเรื่อง "ผีเสื้อ" ผ่านการเรียนรู้แบบโปรเจคแอพโพรช ของน้องๆวัยใส ชั้นอนุบาล 2/3 จากโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ที่มาช่วยกันถ่ายทอดเรื่องราวของผีเสื้อตัวน้อย ให้เพื่อนๆ และผู้ปกครองที่มาเยี่ยมชมงานได้ฟังอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีทีท่าจะเหนื่อยเลย
ระหว่างที่เรากำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันสดชื่นอยู่นั้น มีเด็กน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "คุณครูครับ!! ดักแด้ที่ผมเอามามันกลายเป็นตัวแล้ว ตัวนี้เป็นผีเสื้อพันธุ์หัวจรวดครับ" น้องพาริ ด.ช.พนิตพันธุ์ บริพัตร ณ อยุธยา พูดพลางยื่นผีเสื้อที่อยู่ในขวดโหลให้ดูด้วยความภูมิใจ เราก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปขอดูผีเสื้อน้องพาริด้วยความสนใจ พร้อมทักทาย คุณครูเดือน,ดวงเดือน ปุอุบล ครูประจำชั้นใจดี ที่ได้ช่วยเล่าถึงขั้นตอนการเรียนรู้แบบโปรเจคแอพโพรชของน้องๆให้ฟังว่า "อันดับแรกเลยคุณครูจะเปิดโอกาสให้เด็กเสนอหัวข้อเรื่องต่างๆที่สนใจ อาทิ ถั่วฝักยาว,ขนมไทย,เครื่องบิน,กระต่าย,ผีเสื้อ และดอกมะลิ ปรากฏว่าเด็กสนใจ และโหวตหัวข้อเรื่องผีเสื้อมากที่สุด จากนั้นเด็กๆได้ช่วยกันคิด ตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย และอยากรู้ อาทิ ผีเสื้อมีกี่พันธุ์,ผีเสื้อออกลูกเป็นตัวหรือเป็นไข่,ผีเสื้อคืออะไร,ผีเสื้อเกิดมาได้ยังไง..." เมื่อครูเดือนพูดจบ น้องพาริรีบพูดทันทีว่า "ผีเสื้อคือแมลงมีปีกครับ มันออกลูกเป็นไข่ มีสายพันธุ์ที่หากินทั้งกลางวัน และกลางคืน บางชนิดจะมีหางยาวๆยื่นออกมาครับ" ด้านสาวน้อยหน้าหวาน น้องเพลิน ด.ญ.รติชา สิทธิพรชัย เดินมาร่วมวงพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ "สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้องเพลินค่ะ เพลินใช้แว่นขยายส่องที่ตัวผีเสื้อ ผีเสื้อมีลำตัว มีหนวดแต่ละตัวไม่เหมือนกันค่ะ มีขาหน้าขาหลังรวมกันได้ 6 ขา มีปีก2 คู่ มีหนวด 2 เส้น ไว้ดมกลิ่น มีปากเหมือนงวงไว้ดูดน้ำหวาน มีตา บินได้ว่องไวมากค่ะ"
คุณครูเดือนยังเล่าต่อว่า ในระยะที่สองนี้ จะเป็นช่วงที่ให้เด็กๆรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผีเสื้อ โดยครูจะช่วยวางแผนแนะนำให้เด็กเรียนรู้จากในห้องเรียน นอกห้องเรียน ตามแหล่งชุมชน รวมถึงการจัดหาวิทยากรที่เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ที่ถูกต้อง ซึ่งระหว่างการเรียนรู้นั้น เด็กจะได้ทำกิจกรรมที่เสริมทักษะหลากหลายด้าน อาทิ วาดภาพ เขียนคำและป้ายต่างๆที่ช่วยเสริมทักษะด้านภาษาไทย, ด้านคณิตศาสตร์ โดยการสร้างกราฟและแผนภูมิจากสิ่งที่เด็กๆนับ นอกจากนี้เด็กๆยังได้พัฒนาด้านคุณธรรม เช่น ความเมตตา เด็กๆใส่ใจดูแล ให้อาหารสัตว์ ไม่รังแกสัตว์ นำไปปล่อยสู่ธรรมชาติ รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือกัน และยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
มาถึงกิจกรรมสำคัญที่เด็กๆสนใจมากนั่นคือการไปทัศนศึกษาที่อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพฯ เด็กๆตื่นเต้นที่ได้เห็นไข่ผีเสื้อที่อยู่ใต้ใบไม้ หนอนผีเสื้อและดักแด้ที่ไม่เหมือนกับที่นำมาเลี้ยงในห้อง และผีเสื้อที่บินหาดอกไม้ต่างๆ ภายหลังกลับจากทัศนศึกษา เด็กๆก็ได้นำสิ่งที่ได้เห็นได้สัมผัสมาพูดคุยกัน โดยน้องพาริเล่าว่า"ชอบผีเสื้อถุงทองมากที่ไปดูผีเสื้อเพราะว่าเป็นผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดของสวนรถไฟ แล้วก็มีผีเสื้อใบไม้ มีผีเสื้อพันธุ์จอเจีย แล้วก็พันธุ์อื่นมากมาย ตอนที่คุณพ่อคุณแม่พาไปดูผีเสื้อที่กำแพงแสนแล้วไปเจอเพลี้ย คล้ายดักแด้มาก ผีเสื้อจะอยู่นิ่งตอนที่อากาศหนาว เหมือนกบจำศีล" ทางด้าน น้องบัว ด.ญ.สโรชา ชาติยานนท์ พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "บัวชอบดูผีเสื้อมากเลยค่ะ สนุกมากๆ ได้เห็นผีเสื้อตัวจริงบินมาเกาะใบไม้ตัวใหญ่มาก มันคือผีเสื้อถุงทอง ปีกบนมีสีดำ ปีกล่างมีสีเหลือง คุณลุงบอกว่าผีเสื้อถุงทองเป็นผีเสื้อกลางวันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลย แล้วบัวก็ได้เห็นผีเสื้อใบไม้อินเดียด้วยค่ะ มันมีปีกข้างนอกคล้ายใบไม้แห้งสีน้ำตาล มันกำลังกินผลไม้อยู่ และใช้ปากเป็นงวงดูดๆๆค่ะ" เล่าจบน้องบัวได้ชี้ผีเสื้อถุงทองที่สต๊าฟไว้เพื่อการศึกษาให้เราได้ดูกัน นอกจากนี้เด็กๆยังได้พบกับวิทยากร คุณนราธิป ถาวรประเสริฐ จากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ใจดีมาให้ความรู้เรื่องผีเสื้อ และตอบคำถามข้อสงสัยของเด็กๆ โดยพี่วิทยากรใจดียังนำภาพผีเสื้อมาให้เด็กๆได้ทำกิจกรรมระบายสีเพื่อเสริมสร้างทักษะอีกด้วย
และในช่วงสุดท้ายของการเรียนรู้เรื่องผีเสื้อ เด็กๆได้ช่วยกันสรุปเรื่องผีเสื้อโดยน้องเพลินได้อาสาเล่าให้เราฟังเป็นคนแรก "เรียนเรื่องผีเสื้อแล้วหนูชอบมากค่ะ รู้เรื่องเกี่ยวกับผีเสื้อ ก่อนที่มันจะวางไข่ มันต้องผสมพันธุ์ตัวเมียกับตัวผู้ แล้วตัวเมียก็ออกไข่ไว้ใต้ใบไม้ แล้วก็ออกจากไข่เป็นหนอนกินใบไม้จนโต แล้วลอกคราบเป็นดักแด้ มันต้องนอนนิ่งๆ จนออกมาเป็นผีเสื้อ ผีเสื้อดูดน้ำหวานเกสรดอกไม้ บางตัวก็ดูดน้ำจากดิน มันชอบอากาศดี อากาศหนาวไม่ชอบ ตอนมันเป็นหนอนมันจะมีขน ถ้าเราไปจับอาจทำให้เราคันค่ะ" ด้านน้องพาริเล่าถึงความประทับใจบ้างว่า "ชอบเรียนเรื่องผีเสื้อมาก เพราะมันบินได้ เรียนเรื่องนี้สนุก ได้ความรู้เกี่ยวกับผีเสื้อชนิดต่างๆ อย่างผีเสื้อกลางคืนจะออกจากดักแด้ตอนกลางคืน ผีเสื้อกลางวันจะออกจากดักแด้ตอนกลางวัน และได้ประดิษฐ์ผีเสื้อจากกระดาษและเศษวัสดุ ได้ปั้นหนอน แล้วก็ได้เลี้ยงผีเสื้อตัวจริงๆ" นอกจากนี้เรายังรู้มาว่าเด็กๆมีความตั้งใจกันอย่างเต็มที่ ช่วยกันคิดร่วมกับคุณครูว่าจะจัดเตรียมห้องจัดแสดงนิทรรศการอย่างไร น่าชื่นชมจริงๆ เด็กๆทุกคนเก่งกันมากเลย ช่วยกันคิดทำของที่ระลึกออกแบบเป็นที่ขั้นหนังสือ โดยเด็กๆช่วยกันวาด และระบายสีผีเสื้อพันธุ์ต่างๆอย่างสวยงาม เพื่อแจกเป็นของที่ระลึกให้กับผู้มาเยี่ยมชมนิทรรศการผีเสื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกคน
แม้จะเป็นแค่เด็กอนุบาล2 แต่ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ งานนี้ได้ทั้งความรู้ และสนุกไปพร้อมๆกันเลย