กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
ด้วยกระทรวงการคลังได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ของประเทศใน 4 ประเด็นหลักด้วยกัน ได้แก่ 1) การส่งเสริมให้วิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เพิ่มมากขึ้น 2) การสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ให้มีความพร้อมในการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ 3) การส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการเป็นเจ้าของกิจการ (Entrepreneurship) และ 4) การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up)เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ในประเด็นดังกล่าวข้างต้น กระทรวงการคลังได้กำหนดมาตรการ ดังนี้
1) แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Start Up Committee) โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน และประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์หลัก (Grand Strategy) เพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ของประเทศใน 4 ประเด็นหลักดังกล่าวข้างต้น
2) จัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนกับวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนในด้านแหล่งเงินทุนให้กับวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) เป็นการเฉพาะ ซึ่งจะจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนกับวิสาหกิจเริ่มต้น(Start Up) โดยมีวงเงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 3,000 ล้านบาท และมีแหล่งเงินทุนจากกองทุนรวมวายุภักษ์ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ รูปแบบและวิธีการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) กระทรวงการคลังจะพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ได้มีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Start Up Committee) และการจัดตั้งกองทุนเพื่อร่วมลงทุนกับวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ดังกล่าวแล้ว
สำนักนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3635