กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (28 พ.ย.43) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เวลา 13.30 น. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายพิชัย ไชยพจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด และ Mr. STUART WHITEHEAD จากธนาคารโลก (World Bank) คุณหญิงจันทนี สันตะบุตร นายกสมาคมเพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม ศนจ. คาซูโอะ วาคุกามิ ประธานมูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้านกิจกรรมทางศาสนา ร่วมแถลงข่าว การจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์พัฒนาเมือง เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช วันสิ่งแวดล้อมไทย และวันสถาปนากรุงเทพมหานคร
ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ประกอบกับในวันที่ 4 ธันวาคม 2543 เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย และ ในวันที่ 14 ธันวาคม 2543 เป็นวันสถาปนากรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร จึงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ และมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์พัฒนาเมือง ขึ้น โดยในวันที่ 4 ธ.ค.43 ระหว่างเวลา 10.00 - 21.00 น. จะจัดงาน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” ที่บริเวณชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.43 จะจัด “สัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมไทย” ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวกรุงเทพมหานครได้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สำหรับในปีนี้ทุกหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ทั้งสำนักและสำนักงานเขต โรงเรียน โรงพยาบาล ในสังกัดกทม. ตลอดจนศาสนสถาน และชุมชนต่างๆ จะจัดกิจกรรมรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะกิจกรรมด้านความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความร่มรื่นน่าอยู่ โดยเน้นการเก็บ กวาด ล้างทำความสะอาดภาชนะรองรับมูลฝอย ที่พักผู้โดยสาร ป้ายสัญญาณต่าง ๆ ตลอดจนปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาคูคลอง จัดเก็บผักตบชวาในพื้นที่ต่างๆ ให้สะอาด สวยงาม เตรียมรับเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2542 กรุงเทพมหานครร่วมกับภาคเอกชนกำหนดจัดโครงการบริการตรวจจักรยานยนต์ลดมลพิษ ที่บริเวณสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ ใต้สะพานสาทร อีกด้วย
นางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงาน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธ.ค.43 บริเวณชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ว่า ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การจัดเสวนาปัญหาสิ่งแวดล้อม เกมตอบปัญหาชิงรางวัล (Quiz Show) การแสดงของศิลปินชื่อดัง การแสดงของนักเรียน การแสดงดนตรี การสาธิตการประดิษฐ์สิ่งของจากขยะและเศษวัสดุ การสาธิตการทำขยะหอม การสาธิตขั้นตอนกาาตรวจวัดปริมาณสารพิษในผัก การจัดจำหน่ายสินค้าจากวัสดุเหลือใช้ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แชมพู สบู่สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผักผลไม้ปลอดสารพิษ น้ำสมุนไพร ไข่เกษตรธรรมชาติคอเลสเตอรอลต่ำ (ไข่ EM) เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการเผยแพร่แนวความคิดสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผู้เข้าชมงานจะได้เรียนรู้ประโยชน์ของ “น้ำมหัศจรรย์” หรือสารสกัดชีวภาพ EM ซึ่งเมื่อนำไปผสมตามสูตรต่างๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เป็นหัวเชื้อทำขยะหอมใช้ผสมน้ำซาวข้าวแล้วเป็นสเปยร์ทำความสะอาดของใช้ในบ้าน ใช้ย่อยสลายไขมันอุดตันในท่อน้ำ เป็นต้น อีกทั้งยังได้ศึกษาโครงการแยกขยะสร้างรายได้ของชุมชนต่างๆ ตลอดจนผลงานด้านสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานครและนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อีกมากมาย
ด้านผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด กล่าวถึง การจัด “สัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมไทย” ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.43 ว่า กรุงเทพมหานครโดยหน่วยงานต่าง ๆ จะระดมกำลังปฏิบัติงานพัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี อาทิ การพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยการปรับปรุงทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ บริเวณท่าช้าง ถึงท่าพระจันทร์ ถนนหน้าพระลานและบริเวณหน้าป้อมพระสุเมรุ การล้าง-ทำความสะอาด ถนนราชดำเนินตลอดสาย และถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ป้ายรถประจำทาง ตู้โทรศัพท์ ป้ายสัญญาณจราจรต่างๆ ภาชนะรองรับมูลฝอย ซึ่งจะดำเนินการพร้อมกัน ในวันที่ 1 ธ.ค.43 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพัฒนาทั่วๆ ไป เช่น การพัฒาศาสนสถาน การล้างตลาด 150 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร การจัดเก็บผักตบชวา พัฒนาคูคลอง จำนวน 141 คลอง ความยาวประมาณ 221 ก.ม. การซ่อมแซมทางเท้า และผิวจราจร การตกแต่งและการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ตามสวนสาธารณะ เพิ่มเติม จำนวน 31,900 ต้น ตั้งประดับไม้กระถางตามพื้นที่ต่างๆ จำนวน 134,100 กระถาง และร่วมโครงการปลูกต้นไม้พร้อมกันทั่วประเทศ 9 ล้านต้น 9 นาที โดยกรุงเทพมหานคร จะปลูกทั้งสิ้น 1 ล้านต้น ระหว่างเวลา 08.00-08.09 น. ของวันที่ 5 ธ.ค.43
สำหรับโรงเรียน สถานประกอบการ โรงงาน และหน่วยงานต่างๆ หากต้องการทิ้งสิ่งของที่ไม่ต้องการใช้ สามารถติดต่อกับสำนักงานเขตพื้นที่ เพื่อให้เข้าไปจัดเก็บวัสดุเหลือใช้ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งของที่เก็บรวบรวมหากยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ กรุงเทพมหานครจะนำไปมอบให้หน่วยงานสาธารณกุศล และหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ต่อไป
กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนประชาชนชมนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ในงาน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว ตลอดจนร่วมกันพัฒนาเมืองให้สะอาดสวยงามเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ใน "สัปดาห์วันสิ่งแวดล้อมไทย" ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.43 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยพร้อมเพรียงกัน--จบ--
-นศ-