กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
· ระบบปฏิบัติการ OS10 จากเดลล์ เน็ตเวิร์กกิ้ง สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับซอฟต์แวร์ระบบเปิดแบบโมดูลลาร์ ออกแบบมาเพื่อดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการด้านคลาวด์
· โมดูลพื้นฐาน ใช้ลีนุกซ์ โอเพ่นซอร์ส ได้นำลีนุกซ์ โอเพ่นซอร์ส ที่สามารถทำงานแบบพื้นฐาน แต่รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันเพิ่มเติมบนระบบได้
· เดลล์ ผนึกแอพพลิเคชันค่ายอื่น พร้อมให้ความสามารถในการโปรแกรมซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับโมเดลด้านปฏิบัติการ รองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน
เดลล์ ขยายศักยภาพระบบเชื่อมต่อเครือข่ายแบบเปิด ด้วยการประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการOS10 หรือ Operating System 10 จาก เดลล์ เน็ตเวิร์กกิ้ง ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อเครือข่ายแบบเน็กซ์เจนฯ นี้ ออกแบบมาเพื่อยกระดับใหม่เรื่องความยืดหยุ่นในการใช้งานซอฟต์แวร์ พร้อมให้ความสามารถในการโปรแกรมการทำงานบนสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ สภาพแวดล้อมของการใช้ซอฟต์แวร์ OS10 นี้ช่วยเรื่องฟังก์ชั่นการทำงานที่ล้ำหน้าสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่ ด้วยการแยกการทำงานซอฟต์แวร์เครือข่ายออกจากระบบ เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จัดการระบบปฏิบัติการไอทีได้ทั่วถึง
"ดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่ที่กำหนดการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ต้องอาศัยวิธีการทำงานแบบใหม่ในงานส่วนปฏิบัติการ ไม่ใช่แค่ระบบเครือข่าย แต่เป็นการทำงานข้ามไปถึงระบบประมวลผล (compute) และการจัดเก็บข้อมูล (storage) ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย" นายอภิชาติ อัศวาดิศยางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร เดลล์ อินโดจีน กล่าว "OS10 ช่วยให้ลูกค้าเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับอนาคต โดยเพิ่มนวัตกรรมหรือความสามารถของเครือข่ายเหล่านั้น รวมทั้งเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานในดาต้าเซ็นเตอร์ไห้รวดเร็วขึ้น ตามเจตนารมณ์ของลูกค้าที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถได้ในทุกๆ ระบบ"
"OS10 แสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเดลล์ เนื่องจากเป็นการขยายขอบเขต และยกระดับสายผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อเครือข่ายอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์" แบรด เคสมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ส่วนงานระบบเครือข่ายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ไอดีซี กล่าว "เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นเดลล์มองระบบเชื่อมต่อเครือข่ายว่าเป็นไซโลส่วนงานปฏิบัติการ หรือเป็นส่วนที่แยกออกมา และเตรียมการไว้ตอบโจทย์ความต้องการที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว สำหรับโมเดลในการทำงาน ทั้งเรื่องการดำเนินงานด้านไอที และการปลดแอกไซโลไอทีแบบเดิมๆ"
แยกโครงสร้างในส่วนของระบบปฏิบัติการเครือข่ายออกมา
แพลตฟอร์ม OS10 ออกแบบโดยอิงมาตรฐานใหม่ที่เป็นโมดูลาร์ซอฟต์แวร์ระบบเปิด (open software modularity) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างแนวทางการทำงานข้ามระบบเครือข่ายได้อย่างยืดหยุ่น และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด OS10 ประกอบด้วยโมดูลพื้นฐาน(base module) และโมดูลที่เป็นแอพพลิเคชันทางเลือกอีกหลากหลายโมดูล ปัจจุบัน สิ่งที่เคยถูกผสานรวมอย่างแน่นแฟ้นอยู่ในระบบงานเฉพาะส่วนของผู้ค้าได้ถูกแยกออกเพื่อเพิ่มทางเลือกของลูกค้าในการการควบคุม และการเขียนโปรแกรมตามความต้องการ
· OS10 Base Module – OS10 Base Module พร้อมให้ใช้งานฟรี และรันบนลีนุกซ์ที่ยังไม่มีการปรับแต่ง และเป็นระบบเปิดอย่างเต็มรูปแบบ ลีนุกซ์ เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด อีกทั้งสามารถใช้ภาษาที่เป็น common language ข้ามหลายไอที เลเยอร์ต่างๆ บนระบบไอที ไม่ว่าจะเป็นส่วนของระบบเครือข่าย สตอเรจ และส่วนการประมวลผลก็ตาม OS10 Base Module นั้นเอื้อประโยชน์ในแง่ของการนำความรู้ของชุมชนลีนุกซ์มาช่วยเพิ่มศักยภาพ ทั้งในแง่ของการเขียนโปรแกรม การใช้งานร่วมกับระบบอื่น และให้ความยืดหยุ่นในระดับของแอพพลิเคชันเลเยอร์ที่สูงขึ้นไปได้เช่นกัน
OS10 Base Module ใช้ Open Compute Project Switch Abstraction Interface (SAI) ซึ่งช่วยให้ใช้ภาษากลาง ซึ่งเป็นภาษาที่โปรแกรมเมอร์คุ้นเคย ในการจัดการระหว่างระบบปฏิบัติการเครือข่ายและอุปกรณ์เครือข่ายผู้จำหน่ายรายอื่นบนมาตรฐานเดียวกัน SAI ช่วยให้บริษัทที่ให้บริการทางด้าน web ขนาดใหญ่ (Web-scale companies) รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์ ได้ประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมของซิลิคอนล่าสุด โดยสามารถโปรแกรมการทำงานลงบนตัวสวิตช์ได้
· OS10 Application Modules –บนโมดูลพื้นฐานของ OS10 สามารทำงานในได้ในเน็ตเวิร์กฟังก์ชั่นแบบเก่า (L2/L3protocols) จากเดลล์ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกับสวิตช์ต่างยี่ห้อ ระบบ native Linux และแอพพลิเคชันแบบโอเพ่นซอร์ส เช่นบริการไอพี บริการแฟบริก (Fabric) และบริการด้านความปลอดภัย ที่ผสานรวมกับเครื่องมือสำหรับระบบอัตโนมัติ(automation tools) และระบบบริหารจัดการ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปฏิบัติการด้านไอทีได้ตามความต้องการและตามกระบวนการ
จากงานปฏิบัติการด้านเครือข่าย สู่งานปฏิบัติการด้านการพัฒนา
OS10 ใช้พื้นฐานของลีนุกซ์ ให้ความได้เปรียบ และแตกต่าง ตามที่ลูกค้ากำลังมองหาเพิ่มเติมเมื่อได้ทำการออกแบบระบบแอพพลิเคชัน และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ ครอบคลุมไปถึงเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และระบบเครือข่าย – โดยไม่ไม่ใช่ลักษณะของการทำงานแบบเป็นไซโล ตัวซอฟท์แวร์ OS10 นั้น ยังมีความน่าสนใจสำหรับผู้ดูแลเครือข่ายแบบเก่าที่ใช้การโปรแกรมในวิธีแบบเดิม นอกจากนี้ตัวซอฟต์แวร์ยังคงสร้างความน่าสนใจแก่ชุมชนผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ (DevOps) ที่มองหาสภาพแวดล้อมในการพัฒนาร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องครอบคลุมส่วนต่างๆตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และ ระบบเครือข่าย
"ความสามารถของหลายๆ องค์กร ถูกกำหนดความหมายตามโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure-as-code) กล่าวคือเป็นพื้นฐานหนึ่งและเป็นส่วนที่จำเป็นของการเริ่มต้นพัฒนา (DevOps initiative) เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ ระบบสามารถทำงานร่วมกันและมีความต่อเนื่องได้" ไนเจล เคอร์สเทน ซีไอโอ Puppet Labs กล่าว "มันคือการใช้ภาษาเดียวร่วมกัน โดยมันจะสามารถทำงานข้ามไซโลที่มีระบบเซิร์ฟเวอร์ ระบบสตอเรจ และระบบเครือข่าย เพื่อช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนที่ไม่จำเป็น แต่เพิ่มความเร็ว (speed) และความน่าเชื่อถือ (Availability) เราได้มองต่อไป ในการทำงานร่วมกับเดลล์อย่างต่อเนื่อง และซอร์ฟแวร์ OS10 ตัวใหม่ ก็กำลังนำเสนอให้หลายๆ องค์กรนำมาใช้งานจริงร่วมกับ ระบบบริหารจัดการเครือข่าย"
ปลดล็อกด้านนวัตกรรมให้กับลูกค้า
OS10 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยลูกค้าพัฒนา พร้อมปรับระบบงานให้ตรงต่อความต้องการ รวมถึงให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (software-defined data centre) ได้อย่างแท้จริง
· OS10 จากเดลล์ เน็ตเวิร์กกิ้งให้ความยืดหยุ่นในแบบเฉพาะ และการโปรแกรมที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ทันสมัยใหม่ ในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ และประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราได้เห็นประโยชน์จากการทำงานอย่างมีนัยสำคัญจากระบบเซิร์ฟเวอร์ เช่นการรวมเครื่องมือจัดการเครื่องมือการทำงานแบบอัตโนมัติในเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นศูนย์กลาง" เจสัน ลอง ผู้อำนวยการเครือข่ายสถาปัตยกรรมและการฝ่ายปฏิบัติการ
การวางจำหน่าย
เดลล์ คาดว่าจะเริ่มส่ง OS10 Base Module ออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม ส่วนโมดูลแอพพลิเคชันที่พัฒนาโดยเดลล์ จะเข้าสู่ช่วงของการทดสอบเพื่อเตรียมออกวางจำหน่ายถัดมาในปีนี้