กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ฟิทช์เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI ที่ 'A-' และ 'AAA(tha)' ตามลำดับ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ TLI สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดี การลงทุนที่มีความระมัดระวังของบริษัท และเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังได้สะท้อนถึงระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท
TLI เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 12.5% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 ความแข็งแกร่งทางการตลาดนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายธุรกิจที่มีมายาวนานและช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันที่ครอบคลุมทั่วประเทศ TLI ใช้ตัวแทนประกันเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายหลักของบริษัท โดย 82.4% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 เป็นการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนประกัน นอกจากนี้ TLI ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงเป็นอันดับสองที่ 21.0% ในด้านเบี้ยประกันที่ขายผ่านตัวแทนประกัน
TLI ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยการสนับสนุนจากการกำหนดราคาอย่างระมัดระวังของบริษัท ช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของบริษัท และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ค่อนข้างดี บริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์รวม (pre-tax return on assets) เฉลี่ย 3 ปี (2555-2557) ที่ 2.4% (2.7% ต่อปี ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558) ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นในประเทศและต่างประเทศ (local and international peers)
สัดส่วนของพอร์ทเงินลงทุนของ TLI นั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากและยังมีความเสี่ยงที่ต่ำ โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยตราสารหนี้ เงินสด และเงินฝากซึ่งรวมกันมีสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 นอกจากนี้ บริษัทยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในระดับต่ำกว่า 10% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม
TLI มีระดับเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างมาก ("Extremely Strong") ตามการประมาณการของ Prism Factor-Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองของฟิทช์ที่ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งในด้านเงินกองทุน โดยเป็นการพิจารณาจากข้อมูลผลการดำเนินงานของ TLI ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานของ TLI ณ สิ้นปี 2558 น่าจะยังคงสนับสนุนให้ระดับเงินกองทุนของบริษัทอยู่ในช่วงระดับแข็งแกร่งอย่างมากต่อไป ทั้งนี้ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของ TLI มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งของบริษัท บริษัทมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-based capital – RBC) ที่ 374% ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่ 140% อยู่มาก
TLI มีพันธมิตรทางธุรกิจกับ Meiji Yasuda Life Insurance Company (Meiji Yasuda Life; IFS: A/เครดิตพินิจแนวโน้มมีเสถียรภาพ) และ Meiji Yasuda Life ยังเป็นผู้ถือหุ้นของ TLI ในสัดส่วนถือหุ้น 15% TLI ได้รับประโยชน์จากพันธมิตรทางธุรกิจจากการทำงานร่วมกันกับ Meiji Yasuda Life ในด้านการบริหารความเสี่ยง การพัฒนาความสามารถในด้านการขาย และด้านผลิตภัณฑ์
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจมีผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและภายในประเทศถูกปรับลดอันดับ ได้แก่ ในกรณีที่มีการปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของสถานะเงินกองทุนของบริษัท โดยที่สัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) ลดลงต่ำกว่า 250% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือการปรับตัวแย่ลงของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนของกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ที่ต่ำกว่า 1% อย่างต่อเนื่อง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของ TLI อาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local Currency IDR) ของประเทศไทยที่ 'A-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ถูกปรับลดอันดับ
การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ TLI ไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของบริษัทอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศปัจจุบันก็เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว