กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--กทม.
ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อวานนี้ 25 ก.ย.43 นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประชุมผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตสั่งราชการฝ่ายศึกษาฯ ศึกษาธิการเขต ผู้บริหารโรงเรียน และผู้แทนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,770 คน โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบแนวคิดด้านการศึกษาหลายประการ ได้แก่ ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติที่เราทุกคนภาคภูมิใจ แต่ปัจจุบันเด็กนักเรียนเขียนตัวอักษรไทยอ่านยาก จึงอยากให้เด็กนักเรียนของกทม. ได้มีการเขียนตัวอักษรไทยให้สวยงาม มีการคัดลายมือ รวมทั้งทราบความเป็นมาและมีความเข้าใจในภาษาไทยเป็นอย่างดีด้วย เรื่องอาหารและนม ที่นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครรับประทานนั้น ขอให้ครูสำรวจว่าเด็กนักเรียนที่ยากจนในโรงเรียนมีจำนวนเท่าใด เพื่อจะได้ทราบจำนวนที่ชัดเจนและทำการช่วยเหลือให้ได้รับประทานอาหารและนมเสริมสุขภาพอย่างครบถ้วน ส่วนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองมีฐานะ ก็ให้นักเรียนนำอาหารและนมมารับประทานที่โรงเรียน หรืออาจจะให้เงินบุตรหลานมาซื้ออาหารรับประทานก็ได้ โดยให้โรงเรียนจัดร้านขายอาหารในราคาประหยัด
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า เกี่ยวกับ หนี้นอกระบบของครูในสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งตนมีแนวคิดว่าจะไปหารือกับธนาคารออมสินหรือธนาคารของรัฐอื่น ๆ ช่วยล้างหนี้ให้ โดยจะใช้อัตราเงินเดือนของครูผู้นั้นค้ำประกันคล้าย ๆ กับอสังหาริมทรัพย์ที่ค้ำประกันกับธนาคาร เช่นผ่อนชำระเงินเป็นเวลา 15 ปี หากอายุราชการของผู้กู้เหลือไม่ถึง 15 ปี ก็ขอให้ญาติพี่น้องที่รับราชการอยู่ป็นคนค้ำประกันที่เหลือ หากธนาคารออมสินหรือธนาคารของรัฐให้ความช่วยเหลือก็จะเกิดประโยชน์แก่ครูกทม. ประมาณ 17,000 คน โดยจะปลอดจากหนี้นอกระบบ และสามารถสอนเด็กนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้นอกระบบ ซึ่งมีราคาสูง รวมทั้งจะเป็นตัวอย่างและเป็นประโยชน์แก่ครูทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้รัฐบาลก็ไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนในเรื่องนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียนของกทม. จะพิจารณาให้มีการตรวจปัสสาวะของเด็กนักเรียนทุกชั้นเรียน โดยดำเนินการเฉพาะในโรงเรียน ซึ่งจะให้นักวิทยาศาสตร์เข้ามาทำการตรวจวิเคราะห์ผล หากพบเด็กนักเรียนมีปัสสาวะสีม่วง ก็ให้เด็กนักเรียนนอนพักอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียนแล้วมีการเฝ้าดูอาการของเด็ก ถ้ามีอาการก็จะทำการแก้ไขและภาคทัณฑ์เป็นครั้งแรก หากตรวจพบปัสสาวะสีม่วงเกินกว่า 3 ครั้ง ก็จะให้ออกจากโรงเรียน รวมทั้งหากเด็กนักเรียนไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะก็จะให้มีการกำหนดด้วยว่า เด็กทุกคนที่จะจบการศึกษาจะต้องการผ่านตรวจปัสสาวะก่อน ถ้าไม่พบปัสสาวะสีม่วง จึงจะได้รับประกาศนียบัตรจบหลักสูตร อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ตนจะพิจารณาก่อนว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทยหรือไม่อย่างไร--จบ--
-นศ-