กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--กรุงเทพธุรกิจ มีเดีย
เนชั่น กรุ๊ป เตรียมจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 หุ้นละ 0.03 บาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน หลังกำไรปี 2558 เพิ่มจากปีก่อน 123% หรือคิดเป็นกำไร 35.58 ล้านบาท เหตุรายได้โฆษณาทีวีดิจิทัล 2 ช่องสูงขึ้น ผู้บริหารประกาศเดินหน้าลุยสื่อดิจิทัลเต็มรูปแบบต่อเนื่อง
นางสาวดวงกมล โชตะนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากผลกำไรของบริษัทประจำปี 2558 ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทเตรียมจัดสรรกำไรมาจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น โดยจะจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงิน 122.03 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนๆ โดยในปี 2557 บริษัทจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.028 บาท คิดเป็นเงิน 92.86 ล้านบาท ส่วนปี 2556 ก็ได้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท คิดเป็นเงิน 66.05 ล้านบาท และการจ่ายเงินปันผลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการบริหารงานบริษัทที่มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนชั่น กรุ๊ป ได้กล่าวถึงผลประกอบการในปี 2558 ว่า บริษัทมีผลกำไร 35.58 ล้านบาท เทียบกับผลประกอบการของปี 2557 ที่มีกำไร 15.98 ล้านบาท เท่ากับมีกำไรเพิ่มขึ้น 19.6 ล้านบาท หรือประมาณ 123% ขณะที่ในส่วนของรายได้ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 3,165.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,944.1 ล้านบาท จำนวน 221.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8%
สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากตัวเลขรายได้จากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 12% โดยมาจากการขายโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทรทัศน์ดิจิทัล ที่ทางบริษัทเป็นเจ้าของ 2 สถานี ได้แก่ เนชั่นทีวีช่อง 22 และ NOW 26 ซึ่งมีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาในสื่อทั้งสองนี้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันรายได้ที่มาจากกลุ่มธุรกิจบริการขนส่ง และธุรกิจการศึกษา คือ มหาวิทยาลัยเนชั่น ก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ซึ่งเป็นผลจากการลงทุน ทั้งการวิจัย และพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยเนชั่นให้เป็นไปอย่างครบวงจร โดยอาศัยประสบการณ์ในฐานะองค์กรสื่อชั้นนำของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นางสาวดวงกมลกล่าวว่า ในส่วนของรายได้การจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัทได้ปรับตัวลดลง โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ลดลง 14% และรายได้จากการจำหน่ายหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค ลดลง 34% เป็นผลจากรูปแบบการบริโภคสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยจะเลือกรับสื่อในรูปแบบของระบบดิจิทัลเป็นหลัก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนชั่น กรุ๊ป กล่าวต่อว่า เพื่อให้การทำธุรกิจของบริษัทสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้บริโภค จึงได้พัฒนาแพลทฟอร์มดิจิทัลทั้งระบบขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ข่าวสารจากสื่อเครือเนชั่นเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของสื่อทีวีและหนังสือพิมพ์ในเครือให้คู่ขนานไปกับการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป ไลน์ ซึ่งช่องทางต่างๆ เหล่านี้เป็นสื่อที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นสื่อที่อยู่ติดตัวผู้บริโภคเข้าถึงได้ทุกที่
"ปี 2559 นี้จะเป็นปีที่เนชั่น กรุ๊ป รุกดิจิทัลทุกระบบอย่างครบเครื่องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจทีวีดิจิทัล เนชั่นทีวีได้ปรับเนื้อหาสาระข่าวที่เข้มข้น ทั้งข่าวที่ฉับไว ตรงประเด็น และทันกระแส กับบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทำให้เป็นสถานีข่าวที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ
ขณะที่ NOW26 จะเป็นสถานีโทรทัศน์ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ผู้ชม ด้วยการนำเสนอรายการสารคดีที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิถีธรรมชาติ การดำรงอยู่ของสัตว์โลก และสารคดีที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทาง จะมีการจัดกิจกรรม เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มผู้ชมให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม NOW26 ด้วย
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของเครือเนชั่น ทำให้เราใกล้ชิดกับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกว่านี่คือหัวใจของความเป็นสื่อในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเชื่อมโยงตัวเองเข้าหาคนดู เพื่อตอบโจทย์ที่ครอบคลุมในทุกความต้องการของผู้ชม" นางสาวดวงกมล กล่าว
ด้านบริษัทในเครือเนชั่น กรุ๊ป คือ บมจ. เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) และ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) ได้เตรียมที่จะจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2558 เช่นกัน โดย NBC จะจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นเงินรวม 42.84 ล้านบาท ส่วน NINE จะจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.022 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน 3.74 ล้านบาท