กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,211.80 -1,234.17 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 350 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 20,530 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 370 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,900 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.16 น.ของวันที่ 15/02/16)
แนวโน้มวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559
ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียฟื้นตัวขึ้นหลังจากการร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นฮ่องกง และ ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นนอย่างมาก โดยได้แรงหนุนจากการการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในวันศุกร์ที่ผ่านมา ประกอบกับ เป็นการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นเป็นการดีดตัวขึ้นทางเทคนิคและเป็นปฏิกิริยาต่อตลาดที่มีแรงขายมากเกินไปในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไรเช่นกัน ซึ่งสวนทางกับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาปัญหาในยุโรปว่าจะมีพัฒนาการอย่างไร และปัญหาของภาคธนาคารในยุโรปจะกลายเป็นวิกฤตการเงินหรือไม่ ซึ่งสถานการณ์ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลให้การซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างผันผวน ทั้งนี้ การขยายขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เป็นสิ่งที่ล่อแหลมต่อกิจการธนาคารในยุโรป และ อีซีบีอาจจำเป็นต้องเข้าซื้อตราสารหนี้ได้มากยิ่งขึ้นผ่านการการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใน QE แต่การปรับเงื่อนไขดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะว่าเยอรมนีต่อต้านเรื่องนี้อย่างชัดเจน และหุ้นธนาคารดอยช์ แบงก์ และคอมเมอร์ซแบงก์ของเยอรมนีก็ได้รับผลกระทบเชิงลบจากก่อนหน้านี้ ซึ่งอีซีบีเข้าซื้อตราสารหนี้ไปแล้วกว่า 6 แสนล้านยูโรในช่วงที่ผ่านมา และได้ยืดอายุ QE ออกไป 6 เดือนสู่เดือนมีนาคม 2017 อย่างไรก็ดียังคงมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อราคาอ่อนตัวลงเพราะนักลงทุนความเชื่อมั่นที่ว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงในเดือนมีนาคม ตามธนาคารกลางสวีเดนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (รีโป) ลงสู่ -0.50% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำเกินคาด ซึ่งรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า มีโอกาสราว 50% ที่ อีซีบี จะปรับเพิ่มขนาดโครงการเข้าซื้อตราสารหนี้ในการประชุมเดือนมีนาคมและนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.10% สู่ -0.40% ในการประชุมวันที่10 มีนาคมนี้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ คาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามพยุงราคา โดยในระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างโดย โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับนักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองเพื่อสะสมเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,249 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง หรือตั้งจุดตัดขาดทุนเมื่อราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (20,230บาท) 1,190 (20,060บาท) 1,177 (19,840บาท)
แนวต้าน 1,237 (20,860บาท) 1,249 (21,060บาท) 1,260 (21,250บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,200 (20,330บาท) 1,190 (20,160บาท) 1,177 (19,940บาท)
แนวต้าน 1,237 (20,950บาท) 1,249 (21,160บาท) 1,260 (21,340บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148