กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 13 – 17 กุมภาพันธ์นี้ มีกำหนดการเดินทางไปยังกรุงซูวา สาธารรัฐฟิจิ เพื่อหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร การพัฒนาชนบทและทะเล และการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิจิ พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประมงและป่าไม้ฟิจิ ตามที่ไทยและฟิจิได้ลงนามในเอ็มโอยูว่าด้วยความร่วมมือด้านเกษตรและประมงของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา สำหรับประเด็นสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ อาทิ การแลกเปลี่ยนรายชื่อคณะทำงานทั้งด้านเกษตรและด้านประมงของทั้งสองประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในกรอบความร่วมมือทั้งด้านเกษตรและประมงของสองประเทศทั้งด้านวิชาการ การค้าการลงทุนที่ทั้งสองประเทศให้ความสนใจ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นประเด็นที่ประเทศไทยจะหยิบยกขึ้นหารือ คือ การผลักดันความร่วมมือด้านวิชาการการพัฒนามะพร้าวที่ฟิจิมีความเชี่ยวชาญด้านสายพันธุ์ การปรับปรุงพันธุ์ การทำมะพร้าวอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้แก่ไทยในการนำมาพัฒนาต่อยอดวิชาการในเรื่องมะพร้าวให้มีผลผลิตเพียงพอต่อกับความต้องการของตลาด ส่วนในด้านความร่วมมือด้านประมงซึ่งฟิจิถือเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ และมีการทำการประมงเป็นสินค้าออกที่สำคัญ ก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการระหว่างกันภายใต้กรอบเอ็มโอยู ที่ทั้งสองประเทศจะได้มีการขยายความร่วมมือการทำประมงและพัฒนาอุตสาหกรรมประมงร่วมกันทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวทางการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูของไทย ซึ่งประเทศไทยจะได้ยืนยันถึงความพร้อมในการแสดงศักยภาพการป้องกันปัญหาไอยูยูในเวทีนานาชาติด้วย
สำหรับประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายจะมีผลประโยชน์ร่วมกัน คือ การเป็นฐานการกระจายสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยไทยสามารถเป็นฐานกระจายสินค้าเกษตรของฟิจิในภูมิภาคอาเซียนได้ ขณะที่ฟิจิก็เป็นฐานในการกระจายสินค้าเกษตรของไทยในหมู่เกาะฟิจิได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในโอกาสนี้ได้มีภาคเอกชนของไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสินค้าเกษตร อาหาร และประมงร่วมเดินทางไปด้วย เช่น กลุ่มบริษัทน้ำตาลมิตรผล สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย เป็นต้น รวมถึงประเด็นสุดท้ายที่สำคัญ คือ การทั้งไทยและฟิจิจะเป็นเสียงสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีองค์กรระหว่างประเทศที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกในการผลักดันเรื่องต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันด้วย
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-ฟิจิ พบว่า ในช่วงปี พ.ศ.2556-2558 ไทยและฟิจิมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร เฉลี่ยปีละ 660 ล้านบาท โดยฟิจิเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรกับประเทศไทยอันดับที่ 95 ของไทย มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 0.4 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก สินค้าส่งออกที่สำคัญประกอบด้วย ข้าว อาหารปรุงแต่ง และน้ำตาล และมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตร เฉลี่ยปีละ 243 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญประกอบด้วย สินค้าประมงสดและแปรรูป แช่เย็น แช่แข็ง ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับฟิจิมาโดยตลอด
ขณะที่ข้อมูลการค้าสินค้าประมงระหว่างไทย – ฟิจิ พบว่า ในช่วงปี พ.ศ.2556-2558 ไทยและฟิจิมีมูลค่าการค้าสินค้าประมง เฉลี่ยปีละ ประมาณ 256 ล้านบาท โดยการค้าสินค้าประมงไทย-ฟิจิ ส่วนใหญ่ไทยจะนำเข้าสินค้าประมงจากฟิจิมากกว่าการส่งออก แบ่งเป็น ไทยนำเข้าสินค้าประมงจากฟิจิประมาณปีละ 230 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าประมงสดแช่เย็นแช่แข็ง ทูน่าสดแช่เย็นแช่แข็ง ขณะที่มูลค่าการส่งออกเฉลี่ยปีละ 26 ล้านบาท มีสินค้าส่งออกที่สำคัญประกอบด้วย ทูน่ากระป๋อง ปลากระป๋องอื่นๆ