กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ASIA VENTURE CHALLENGE 2016 เวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจและมีโอกาสเรียนรู้ทักษะเชิงธุรกิจ เช่น การวางแผนทางธุรกิจ การวางแผนด้านการเงิน การเขียนแผนงานธุรกิจและทักษะการนำเสนองาน เพื่อเตรียมความพร้อมหาประสบการณ์จริงพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพในยุคของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ASEAN Economic Community: AEC ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศทั้ง 10 มีความสามารถเพิ่มอำนาจต่อรอง ลดการพึ่งพาเศรษฐกิจโลก และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศและแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆ ซึ่งหากผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ก็จะเพิ่มความได้เปรียบในการพัฒนาธุรกิจได้ในอนาคต
"ASIA VENTURE CHALLENGE" การประกวดแข่งขันแผนธุรกิจระดับนานาชาติ สำหรับนักศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ได้รับความสนใจและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ดำเนินโครงการภายใต้ 3 แนวคิดหลัก คือ A (Asia) - เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ด้วยอิทธิพลจากกำลังชื้อที่มากและจำนวนผู้ประกอบธุรกิจที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น V (Venture) - เวทีการแข่งขันที่รวบรวมแผนธุรกิจที่สามารถนำไปต่อยอดได้จริง เหมาะสำหรับนักลงทุนและนักธุรกิจที่กำลังมองหาช่องทางธุรกิจในเอเชีย C (Challenge) - สนามประลองการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยและนักศึกษาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียนำเสนอแผนธุรกิจ โดยทุกทีมต้องแข่งขันกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการ ซึ่งเปรียบเสมือน "ผู้ลงทุน" หรือ "ผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมทุน" (Venture Capitalist) โดยจะต้องจัดทำแผนธุรกิจของผลิตภัณฑ์และบริการ ตั้งแต่การวิเคราะห์ วิจัย และศึกษาตลาด ด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มีความเป็นไปได้ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะสามารถทำได้จริงและประสบความสำเร็จหากได้รับเงินทุนสนับสนุน ตลอดจนสามารถให้ผลตอบแทนตามที่ตั้งเป้าไว้
สำหรับประเทศไทยโดย 2 เจ้าภาพหลัก คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการการแข่งขันและมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับเอเชียให้จัดโครงการฯ นี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านความน่าเชื่อถือ และศักยภาพด้านความรู้ความสามารถของนักศึกษาไทย และภาษาที่มีการพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ได้รวบรวมมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียไว้บนเวทีเดียว เปรียบเสมือนศูนย์รวมนักศึกษาระดับหัวกระทิทั่วทั้งเอเชียมาแสดงความรู้ความสามารถ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสู่ผู้ประกอบการไทยได้ในวงกว้างและระยะยาว ดังนั้น การประกวดแข่งขันแผนธุรกิจเป็นภาษาอังกฤษจึงไม่ใช่ประเด็นปัญหา ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรฝึกเขียนแผนธุรกิจที่เป็นสากล ซึ่งแผนธุรกิจที่ดีจะช่วยตอบคำถามต่างๆ ให้กับนักลงทุนหรือแหล่งลงทุนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่จะต้องถามตอบได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งอนาคตผู้ประกอบการไทยจะต้องแข่งขันธุรกิจในระดับโลกผ่านเวทีอาเซียน
ในทุกๆ ปี จะมีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับเอเชียส่งผลงานแผนธุรกิจเข้าประกวด จำนวน 12 - 15 ทีม จากจำนวน 8-10 ประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย และไทย ซึ่งนักศึกษาที่เข้ามาประกวดในโครงการนี้จะถูกคัดเลือกจากทางมหาวิทยาลัย และฝึกฝนเพื่อมาแข่งขันเป็นอย่างดี การแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 สาย ประกอบด้วย 12-15 ทีมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย โดยแต่ละทีมต้องแข่งขันกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะรับบทบาทเสมือน "นักลงทุน" หรือ "ผู้ประกอบธุรกิจเงินรวมทุน" โดยหากแผนธุรกิจนั้น ได้รับเงินทุนสนับสนุนแล้วจะสามารถดำเนินการทางธุรกิจได้จริง มีโอกาสประสบความสำเร็จและสามารถให้ผลตอบแทนเป็นกำไรได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้
การแข่งขัน "ASIA VENTURE CHALLENGE กำหนดให้มี 6 รอบ ประกอบด้วย 1.รอบ 60-Second Elevator Pitch รอบแรกของการเปิดการแข่งขัน ซึ่งเป็นรอบที่น่าสนใจ เพราะนักศึกษาแต่ละทีมจะส่งตัวแทนเพียง 1 คน มีเวลาในการนำเสนอเพียง 60 วินาที ในการพูดให้นักลงทุนสนใจธุรกิจที่จะนำมาเสนอ เสมือนเราได้มีโอกาสได้พบนักธุรกิจชั้นนำในลิฟต์ซึ่งหาโอกาสแบบนี้ได้ยากเพื่อขายแผนธุรกิจ 2.รอบ Grant Thornton New Venture Showcase การจัดแสดงแผนธุรกิจ 3.รอบ Division Round คัดเลือกทีมที่ชนะแต่ละสายเข้ารอบชิงชนะเลิศ 4.รอบ Playoff round ทีมรองชนะเลิศของแต่ละสายในรอบแรกมาแข่งขันกัน 5.รอบ Challenge round คัดเลือกเหลือเพียง 4 ทีมสุดท้าย 6.Final Round รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะให้เวลานำเสนอแผน 45 นาที พร้อมการตอบคำถามสดจากคณะกรรมการ โดยเกณฑ์การตัดสินนั้นจะพิจารณาจากการนำเสนอแผนธุรกิจ 40% พรีเซนเตชั่น 20% และความเป็นไปได้ในการทำเป็นธุรกิจ 40%
ในการจัดการแข่งขัน "ASIA VENTURE CHALLENGE" หลายปีที่ผ่านมา นักศึกษาทีมชนะเลิศจากเวทีนี้สามารถคว้ารางวัลแชมป์โลกได้ถึง 2 ครั้ง จากการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก หรือ Venture Labs Investment Competition (VLIC) ที่มหาวิทยาลัย เท็กซัส แห่งออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันที่ได้ชื่อว่ามีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก โดยคว้าแชมป์แผนธุรกิจโลกครั้งแรกในปี 2005 จากโครงการปริญญาโททางการตลาด หลักสูตรนานาชาติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (MIM) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และครั้งที่สองในปี 2012 จาก Indian School of Business ประเทศอินเดีย จากความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของการแข่งขัน ASIA VENTURE CHALLENGE นอกเหนือจากที่มีทีมผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียสามารถพิชิตรางวัลชนะเลิศเหนือมหาวิทยาลัย Top20 ของสหรัฐอเมริกาและกว่า 40 ทีมทั่วโลกในเวทีการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก Global Moot Corp® แล้ว เวทีการแข่งขันดังกล่าวนี้ยังสามารถเป็นจุดเริ่มต้นในการนำแผนธุรกิจมาดำเนินการจริง มีผลสำเร็จเป็นเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศและสามารถสร้างธุรกิจได้จริงในที่สุด
การแข่งขันโครงการนี้เป็นการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจโดยจะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก และเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน AEC ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยรุ่นใหม่ที่พัฒนาและก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน มีความจำเป็นต้องพัฒนาตัวเอง ไปพร้อมๆ กับการคิดแผนธุรกิจให้สอดคล้องแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ในการเตรียมตัวเพื่อการเข้าร่วมการแข่งขันนั้น ทีมผู้เข้าแข่งขันต้องรอบรู้ในทุกด้านเกี่ยวกับธุรกิจที่นำเสนอจึงต้องทำการวิเคราะห์ตลาดจริง รู้พฤติกรรมของผู้บริโภค วางแผนธุรกิจในทุกด้าน ทำให้ผู้เข้าแข่งขันได้ฝึกฝนและพัฒนาตนเองเปรียบเทียบได้กับการทำธุรกิจจริง อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการจุดประกายให้ผู้เข้าแข่งขันนำแผนธุรกิจนั้นๆ ไปสร้างเป็นธุรกิจจริงได้อีกด้วย
โครงการประกวดแผนธุรกิจ ASIA VENTURE CHALLENGE 2016 กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคม 2559 ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจทั้งนิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ นักลงทุน และประชาชนทั่วไปเข้าฟังฟรี นอกจากจะเป็นแผนธุรกิจที่สามารถทำได้จริงและน่าสนใจต่อนักลงทุนแล้ว หลายๆ แผนธุรกิจ ก็จัดเป็นการเผยแพร่เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ของทวีปเอเชียสู่สายตาของคนทั่วโลก โดยมีคณะกรรมการตัดสินเป็นนักธุรกิจชั้นนำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งผู้ชมการแข่งขันที่ได้ฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการ ก็สามารถเกิดการต่อยอดทางความคิด รวมถึงได้รับมุมมองใหม่ๆ และแง่คิดในการประกอบธุรกิจอันเป็นประโยชน์ ทั้งยังช่วยเสริมศักยภาพในการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลต่อไปในอนาคต สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โทรศัพท์ 02-222-1331 หรือที่เว็บไซด์ www.asiaventurechallenge.org