กรุงเทพฯ--17 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL ที่ 'A-' และ 'AAA(tha)' ตามลำดับ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ MTL สะท้อนถึงระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและนโยบายการลงทุนที่มีความระมัดระวังของบริษัท นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งในฐานะบริษัทประกันชีวิตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม
อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK (มีอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (IDR) ที่ 'BBB+'/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย และ Ageas Insurance International N.V. หรือ Ageas (มีอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ที่ 'A'/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) MTL ได้รับประโยชน์จากการเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวที่สามารถขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านเครือข่ายสาขาของ KBANK ได้ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนในด้านเทคนิคและการดำเนินงานจาก Ageas
MTL มีระดับเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ("Strong") ตามการประมาณการของ Prism Factor-Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองของฟิทช์ที่ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งในด้านเงินกองทุน ซึ่งพิจารณาจากข้อมูลการดำเนินงานของ MTL ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 อย่างไรก็ตาม ระดับเงินกองทุนของบริษัทตามการประมาณการของ Prism FBM ปรับตัวอ่อนแอลงหนึ่งระดับจากเดิมที่ระดับแข็งแกร่งมาก ("Very Strong") ซึ่งเป็นการพิจารณาจากข้อมูลการดำเนินงานของ MTL ณ สิ้นปี 2557 โดยที่สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินประกันชีวิตเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม MTL ยังคงมีฐานะเงินกองทุนที่ดี ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานของ MTL ณ สิ้นปี 2558 น่าจะยังคงสนับสนุนให้ระดับเงินกองทุนของบริษัทอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ทั้งนี้ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของ MTL มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งของบริษัท บริษัทมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-based capital – RBC) ที่ 423% ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2558 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่ 140% อยู่มาก
MTL ยังคงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยตราสารหนี้ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม และตราสารหนี้ส่วนใหญ่นั้นเป็นตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ในขณะที่บริษัทยังคงมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม
MTL ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเครือข่ายทางธุรกิจ (franchise) ที่แข็งแกร่งของบริษัท นโยบายการกำหนดราคาที่มีความระมัดระวัง และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่ค่อนข้างดี โดยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ย ที่ 3.8% ต่อปีในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
MTL เป็นผู้นำในด้านเบี้ยประกันรับรวมที่จำหน่ายผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารพาณิชย์ (bancassurance) โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 27.7% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทในด้านเบี้ยประกันรับรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 16.8% จาก 14.9% ในปี 2557
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจมีผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและภายในประเทศของ MTL ถูกปรับลดอันดับ ได้แก่ การปรับตัวลดลงของสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) มาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 250% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และการปรับตัวแย่ลงของความสามารถในการทำกำไร ซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนของกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ที่ต่ำกว่า 1% นอกจากนี้ การปรับตัวแย่ลงของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Prism FBM อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิตในอนาคต
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local Currency IDR) ของประเทศไทยที่
'A-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ น่าจะส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของ MTL ก็น่าจะถูกปรับลดลงเช่นกัน
การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ MTL ไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของบริษัทอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศปัจจุบันก็เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว