กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--การประปาส่วนภูมิภาค
ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ยืนยันวิกฤตภัยแล้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา กปภ. 10 สาขาในพื้นที่ยังคงผลิตน้ำได้ มีเพียง กปภ.สาขาพิมาย (หน่วยบริการเมืองคง) ที่ลดแรงดันการจ่ายน้ำในช่วงเวลากลางคืน เพื่อยืดระยะเวลาการจ่ายน้ำให้ได้นานที่สุด
นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้ได้ขยายวงกว้างไปยังหลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา ซึ่งประกอบด้วย กปภ. 10 สาขา ได้แก่ กปภ.สาขานครราชสีมา ปากช่อง ครบุรี สีคิ้ว ปักธงชัย โชคชัย พิมาย ชุมพวง โนนสูง และด่านขุนทด กปภ.ขอยืนยันว่า ทั้ง 10 สาขาข้างต้น ยังคงผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ แม้ว่าปริมาณน้ำดิบที่นำมาใช้ผลิตน้ำประปาจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จุดที่เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง คือ หน่วยบริการเมืองคง ของ กปภ.สาขาพิมาย ให้บริการในเขตพื้นที่ อบต.เมืองคง เทศบาลตำบลเมืองคง อบต.ดอนใหญ่ มีผู้ใช้น้ำรวม 1,574 ราย ใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำ ห้วยตะคร้อ ซึ่งปัจจุบันเหลือน้ำในอ่างประมาณ 0.9 ล้าน ลบ.ม. จากความจุปกติ 6 ล้าน ลบ.ม. กปภ.จึงมีความจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ ด้วยการลดแรงดันการจ่ายน้ำ ตั้งแต่เวลา 20.00-05.00 น. ของทุกวัน เพื่อยืดระยะเวลาให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปาให้ผ่านพ้นช่วงภัยแล้งไปได้
ด้านผู้ใช้น้ำ 9,500 รายของ กปภ.สาขาปักธงชัย ยังคงใช้น้ำประปาตามปกติ ทั้งในส่วนแม่ข่ายปักธงชัยซึ่งใช้แหล่งน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ขณะนี้มีน้ำประมาณ 81 ล้าน ลบ.ม. หรือ 73%ของความจุอ่าง ซึ่ง กปภ.ประเมินว่าไม่น่าเป็นห่วง และหน่วยบริการวังน้ำเขียว ซึ่งให้บริการในพื้นที่เทศบาลตำบลศาลเจ้าพ่อ อบต.วังน้ำเขียว (บางส่วน) และ อบต.ไทยสามัคคี (บางส่วน) ได้รับผลกระทบจากแหล่งน้ำดิบหลักที่มีปริมาณน้ำดิบเหลือน้อยมาก ขณะนี้จึงต้องใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำเสี่ยมุ้ย และคลองสอง ซึ่งมีปริมาณน้ำคงเหลือรวม ประมาณ 70,000 ลบ.ม. กปภ.จึงได้เตรียมแหล่งน้ำสำรอง 2 แห่ง รวม 50,000 ลบ.ม. ไว้รองรับ โดยคาดว่าจะเพียงพอใช้งานจนถึงเดือนเมษายน 2559 อีกทั้งได้รับงบประมาณป้องกันและแก้ไขภัยแล้ง (ระยะสั้น) ปี 2559 ในการวางท่อน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงมาที่คลองสอง โดยจะได้ผู้รับจ้างภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2559 สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาสีคิ้ว งบประมาณ ๕๘๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวในการแก้ปัญหาภัยแล้งของ กปภ.ได้ดำเนินการวางท่อย้ายจุดสูบน้ำดิบจากจุดเดิมที่ลำรางของลำตะคองไปติดตั้งที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปา และยังเป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อแบ่งปันให้ภาคส่วนอื่น ๆ ได้ใช้น้ำโดยทั่วกัน
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้จัดการ กปภ.ทั้ง 10 สาขาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาได้เข้าร่วมประชุมบริหารจัดการน้ำร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด กปภ.ต้องขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า รวมทั้งตรวจสอบระบบท่อประปาภายในบ้านมิให้มีน้ำรั่วไหลเพราะน้ำทุกลิตรมีค่ามากในขณะนี้ หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการน้ำประปาสามารถติดต่อได้ที่ PWA Call Center 1662