GUNKUL เซ็นสัญญาขาย PP ให้ SCB จำนวน 41.50 ล้านหุ้น เพิ่มศักยภาพ รองรับแผนลงทุนในอนาคต / หนุนฐานะการเงินแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 18, 2016 11:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--IR network "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" เผย บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เซ็นสัญญาขายหุ้น PP ให้แบงก์ไทยพาณิชย์จำนวน 41.50 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท ที่ราคาหุ้นละ 22.84 บาท มั่นใจทำให้มีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบัน ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการลงทุนในอนาคต หนุนรายได้และฐานะทางการเงินให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดย GUNKUL ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท อีกจำนวน41,500,000 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 1,374,905,589 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,416,405,589 บาท ด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 41,500,00 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท และได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จำนวนไม่เกิน 41,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท ให้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยกำหนดราคาเสนอขาย 22.84 บาทต่อหุ้น พร้อมกันนี้ยังได้แต่งตั้งให้ ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อศึกษาการจัดทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) สำหรับประโยชน์ของการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อให้บริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเป็นการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งเพื่อให้บริษัทฯมีเงินทุนสำหรับการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มค่าในการเข้าลงทุนและมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเสนอแผนงานให้กับทางคณะกรรมการรับทราบในเบื้องต้นแล้ว โดยโครงการดังกล่าวมีอัตราผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าต้นทุนเงินทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก(WACC) และมีผล ตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่านโยบายของบริษัทฯเช่นกัน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณการลงทุนจำนวน 7,200 ล้านบาท ซึ่งภายใต้งบลงทุนดังกล่าว บริษัทฯมีความต้องการเงินลงทุนในส่วนทุนประมาณ 1,550 ล้านบาท ถือเป็นไปตามเงื่อนไขที่เคยได้รับจากสถาบันการเงินสำหรับโครงการประเภทเดียวกัน และมีที่มาของแหล่งเงินทุนจาก 1) เงินทุนหมุนเวียนภายใน และ 2) เงินเพิ่มทุนจำนวน 910 – 1,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 100% ของเงินเพิ่มทุนที่จะได้รับทั้งหมด นอกจากนี้ยังทำให้บริษัทฯมีมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Book value) สูงขึ้นประมาณ 13.00% อันจะส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น พร้อมทั้งเสริมความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวสำหรับบริษัทต่อไป "การดึงพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาในครั้งนี้ เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท อันจะส่งผลให้สามารถขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ ตามแผนการใช้เงิน และดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน พร้อมนี้บริษัทยังได้แต่งตั้งให้นาย ชาญ บูลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาด้านการขยายการลงทุนอีกด้วย "ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ