กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--IR network
กูรูแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท หรือ ARROW ให้ราคาพื้นฐาน 16.70 บาท มองอนาคตโตไม่หยุดตามภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและการลงทุนของภาครัฐฯ ประเมินกำไรสุทธืปี 2559 เติบโต 264 ล้านบาท จากยอดจดทะเบียนอาคารชุดที่ยังขยายตัว แนะนำ "ซื้อ" โดยประเมินศักยภาพการทำกำไรยังโดดเด่น และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2016 เท่ากับ 16.70 บาท อิง PE Multiplier เฉลี่ยของกลุ่มอสังหาฯ รับเหมา และวัสดุก่อสร้างที่ 16 เท่า แม้คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q15 ลดลง 10% Q-Q เหลือ 59 ล้านบาท เพราะงานก่อสร้างชะลอ แต่เมื่อรวมทั้งปี 2015 ยังโตสูง 65% Y-Y ส่วนปี 2016 คาดอย่างระมัดระวัง +8% Y-Y เป็น 264 ล้านบาท จากยอดจดทะเบียนอาคารชุดที่ยังมีการเติบโต และการลงทุนขยายโครงข่าย 4G ของผู้ประกอบการมือถือ โดยยังไม่รวมรายได้จากการขายเหล็กโครงสร้างโรงานที่เป็นธุรกิจใหม่ และงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ เช่น รถไฟฟ้าและโครงการนำสายไฟลงดิน หากมาเร็วอาจได้เห็นกำไรกลับมาโตแรงอีกครั้งใน 2H16
อย่างไรก็ตาม แม้กรณีปกติ ARROW อาจดูหมดเสน่ห์ในแง่การเติบโต แต่บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยังชอบตรงศักยภาพการแข่งขันที่สูง ด้วยความเป็นผู้นำตลาดที่สามารถกำหนดราคาได้ ขณะที่ความผันผวนของธุรกิจต่ำเพราะเป็นวัสดุที่มีมูลค่าเพียง 1-2% ของทั้งโครงการ และด้วยฐานะทางการเงินที่แทบไม่มีหนี้แต่สามารถสร้าง ROE ได้สูงเกือบ 30% บล.ฟินันเซีย ไซรัส จึงมอง ARROW เป็นหุ้นคุณค่าที่ไม่ควรมองข้าม โดยราคาปัจจุบันซื้อขายที่ Forward PE 2016 ต่ำเพียง 12 เท่า และมีผลตอบแทนจากปันผลราว 4% ต่อปี
ARROW เบอร์ 1 ตลาดท่อร้อยสายไฟ
ธุรกิจหลักของ ARROW กว่า 70% ของรายได้รวมคือท่อร้อยสายไฟที่ทำจากเหล็กเคลือบสังกะสี และอีก 20% คือท่อและข้อต่อสำหรับงานก่อสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับงานโครงสร้างอาคาร ส่วนที่เหลืออีก 10% คือท่อระบายอากาศและปะปา รายได้จึงผันแปรตามการขยายตัวของที่อยู่อาศัย อาคาร และโครงสร้างพื้นฐานประเทศ แต่เนื่องจากสินค้าของ ARROW ถือเป็นวัสดุที่มีมูลค่าต่ำเพียง 1-2% ของทั้งโครงการ อีกทั้ง ผู้ออกแบบได้หันมาใช้ท่อเหล็กแทน PVC มากขึ้น โดยเฉพาะอาคารสูงเกิน 8 ชั้นที่กฎหมายควบคุมอาคารระบุให้ใช้ท่อเหล็กร้อยสายไฟเท่านั้น จึงทำให้ผลประกอบการแทบไม่ถูกกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยรายได้และกำไรสุทธิช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยแบบ CAGR สูงถึง 15% และ 46% ต่อปี ภาวะอุตสาหกรรมและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจยังเอื้อต่อการเติบโต
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าอุตสาหกรรมท่อร้อยสายไฟปีนี้จะโตขั้นต่ำ 5-10% แม้ยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยปี 11M15 ลดลง 7% Y-Y แต่ยอดจดทะเบียนอาคารชุดเพิ่มขึ้น 9% Y-Y ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ทั้งท่อร้อยสายไฟและท่อ Posttensioned สำหรับโครงสร้างอาคาร ขณะที่ การขยายโครงข่าย 4G ของผู้ประกอบการมือถือจะหนุนตลาดท่ออ่อนกันน้ำร้อยสายไฟ ~10% ของรายได้รวมให้ขยายตัวแรง ส่วน Upside จะเปิดกว้างกว่านี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการอนุมัติลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เช่น รถไฟฟ้า สุวรรณภูมิเฟส 2 และการนำสายไฟฟ้าลงดิน หากดำเนินการได้เร็วใน 1H16 อาจได้เห็นกำไรของ ARROW กลับมาขยายตัวแรงอีกครั้งใน 2H16
ต่อให้ปีนี้ปัจจัยภายนอกไม่เอื้อ คาดว่ากำไรยังโต 8% Y-Y เป็น 264 ล้านบาท
คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q15 ลดลง 10% Q-Q เหลือ 59 ล้านบาท จากปัจจัยฤดูกาลที่มีงานก่อสร้างออกมาน้อย แต่เมื่อเทียบ Y-Y ยังเห็นการเติบโตสูง 37% ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2015 น่าจะจบที่ 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% Y-Y ส่วนปี 2016 คาดการณ์อย่างระมัดระวังที่ 264 ล้านบาทโต 8% Y-Y ใกล้เคียงการเติบโตของอุตสาหกรรม โดยยังไม่รวมโครงการลงทุนขนาดใหญ่ข้างต้น และรายได้จากธุรกิจ Trading เหล็กโครงสร้างโรงงานที่เริ่มปีนี้ผ่านบริษัทย่อย (ถือ 65%) ซึ่งผู้บริหารคาดยอดขายไว้ที่ 200 ล้านบาท
สรุปคือ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชอบ ARROW ตรงที่ความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 55% ซึ่งทำให้อยู่ในฐานะผู้กำหนดราคาจากผลของ Economies of scale และถือเป็นการกันคู่แข่งรายใหม่ไปในตัว ขณะที่ สินค้าทดแทนยังไม่มีเพราะเหล็กกำลังไปแทน PVC ด้วยเงื่อนไขด้านความปลอดภัย เช่นเดียวกับอำนาจการต่อรองของลูกค้าที่ไม่สูง เพราะสินค้าเป็นวัสดุสินเปลืองที่มีมูลค่าต่ำเมื่อเทียบกับทั้งโครงการ และด้วยศักยภาพในการทำกำไรที่โดดเด่น โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 15% และ ROE 28% ส่วนฐานะทางการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash