กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,205.60 -1,210.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 20,400 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,370 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.26 น.ของวันที่ 18/02/16)
แนวโน้มวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559
รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)ประจำวันที่ 26-27 มกราคม ได้ตอกย้ำความกังวลที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และสภาวการณ์ทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นทั่วโลก ซึ่งกระทบเศรษฐกิจสหรัฐ จนมีแนวโน้มจะพิจารณาการเปลี่ยนแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยในปี2016 ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำอีกครั้ง ขณะที่การคาดการณ์ดังกล่าวชัดเจนมากขึ้น เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บูลลาร์ด กล่าวว่า เฟดไม่ควรเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางตลาดการเงินที่ย่ำแย่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาปรับเปลี่ยนจุดยืนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก เพราะในปี 2015 นั้นเขามักจะกล่าวสนับสนุนให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินเพราะกังวลกับความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานจะกระตุ้นให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์จนเป็นอันตราย ซึ่งนายบูลลาร์ดเป็นสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงใน FOMC ในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงที่ดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน เมื่ออิหร่านได้ตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำกำลังจับตาทิศทางราคาน้ำมันเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำ หลังจากการดิ่งลงของราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิตน้ำมันจนสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของซาอุดิอาระเบีย, บราซิล, คาซัคสถาน, บาห์เรน และโอมานลงในวันพุธที่ผ่านมาถือเป็นการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งที่สองหลังจากที่เคยปรับลดไปแล้วเมื่อหนึ่งปีก่อน วายแอลจีอยากชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะประเด็นข่าวเหล่านี้มักจะชี้นำราคาทองคำค่อนข้างมาก
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,195-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,218-1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,195 (20,100บาท) 1,185 (19,940บาท) 1,170 (19,680บาท)
แนวต้าน 1,218 (20,500บาท) 1,230 (20,700บาท) 1,241 (20,880บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,195 (20,200บาท) 1,185 (20,030บาท) 1,170 (19,770บาท)
แนวต้าน 1,218 (20,600บาท) 1,230 (20,800บาท) 1,241 (20,980บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148