กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--KTAM
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 7 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 1,740.ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.4100 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1990 บาทต่อหน่วย พร้อมลดทุนจดทะเบียน ในอัตรา 0.0040 บาทต่อหน่วย รวมจำนวนเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ 0.2030 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.222 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี ( DTCPF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.135 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเม้นต์ ( TCIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1350 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าไทยโฮเทลอินเวสเม้นต์ ( THIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.200 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF ) จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1150 บาทต่อหน่วย
โดยการจ่ายเงินปันผล 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 ตุลาคม -31 ธันวาคม 2558 ยกเว้นกองทุน DTCPF รอบระยะเวลาบัญชี 1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2558 และทั้ง7 กองทุน จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2558 จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ในวันที่ 14 มีนาคม 2559 และจ่ายเงินลดทุน สำหรับกองทุน CPTGF ในวันที่ 15 มีนาคม 2559
กองทุน TTLPF ลงทุนในสิทธิการเช่าบางส่วนในโครงการตลาดไท ระยะเวลา 20 ปี (ปัจจุบันสัญญาเช่ามีอายุคงเหลือ16 ปี ) ประกอบด้วย อาคารตลาดน้ำปลาน้ำจืด / อาหารทะเล อาคารตลาดอาหารแปรรูป อาคารตลาดสด อาคารตลาดหมูปลอดสาร อาคารตลาดของแห้ง / ตลาดขนมใหม่ อาคารศูนย์อาหาร อาคารตลาดผัก อาคารตลาดดอกไม้ อาคารส้ม อาคารผลไม้คัดคุณภาพ อาคารผลไม้รวม โชว์รูมตลาดนัดมอเตอร์ไซด์ รถเข็นคุณภาพ อาคารห้องน้ำ อาคารสำนักงานตลาด (ภาคกลางคืน) อาคารเอนกประสงค์ ที่จอดรถ ลาน A และ ลาน B กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,949 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายปันผล 4 ครั้งต่อปี
กองทุน CPTGF ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารประเภทสำนักงานและศูนย์การค้า เป็นระยะเวลา 30 ปี ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคารซี.พี . ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์ ) และอาคารซี.พี. ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 9,913 ล้านบาท ผู้เช่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง มีความหลากหลายในประเภทของธุรกิจ ทั้งบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล และกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละ 4 ครั้ง
กองทุน TRIF มีนโยบายลงทุน (freehold) ในศูนย์การค้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ โครงการพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โครงการตะวันนา และโครงการโอ.พี.เพลส กองทุนมีมูลค่าโครงการประมาณ 21,190 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ1 ครั้ง
กองทุน TCIF มีนโยบายลงทุน แบบ Leasehold + Freehold โดยลงทุน Freehold ในโครงการ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ อาคารเอ็มไพร์ อาคารไซเบอร์ เวิร์ลด และอาคาร 208 และสิทธิการเช่าในที่ดิน ( Leasehold) สำหรับอาคารแอทธินี โดยมีมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 27,672 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ปีละ2 ครั้ง
กองทุน THIF ลงทุนในโรงแรม จำนวน 12 แห่ง ตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ประกอบด้วย 1) โรงแรม อิมพีเรียล สมุย บีช รีสอร์ท 2 ) โรงแรม อิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท 3) โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค 4) โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต 5) โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ถ. สุรวงศ์ เขตบางรัก 6) โรงแรม บันยันทรี สมุย 7) โรงแรมวนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย 8) โรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ 9) โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน กรุงเทพ 10) โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ 11) โรงแรม โอกูระ เพรสทีส กรุงเทพ และ12 ) โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ กองทุนนี้เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ดี มีศักยภาพในการเจริญเติบโตของรายได้ในอนาคต ด้วยทำเลที่ตั้งทั้งอยู่ใจกลางเมือง และเขตธุรกิจในกรุงเทพ และรวมถึงต่างจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยกองทุน นี้มีมูลค่าโครงการ 28,459 ล้านบาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
กองทุน EGATIF ลงทุนในสิทธิการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย ในอนาคตที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า พระนครเหนือ ชุดที่ 1 ด้วยการเข้าทำสัญญากับกฟผ. ในสัญญาการเข้าลงทุน ในรายได้ค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งมีอายุสัญญา 20 ปี นับจากวันที่กองทุนรวมเข้าลงทุน และกองทุน DTCPF ลงทุนในกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ และการลงทุนในสิทธิการเช่าในทรัพย์สินของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เพื่อนำไปให้เช่าและเช่าช่วง?โดยกองทุนมีมูลค่าโครงการ 4,090 ล้านบาท กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง