กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
นายแพทย์ วิชัย โชควิวัฒน อธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี รับประทานคางคกต้มกับสมุนไพรจนหายจากโรคเอดส์ว่า ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยไม่มีการกล่าวถึงสรรพคุณทางยาของคางคก แต่มีกล่าวถึงบ้างในตำราระยะหลัง ซึ่งอาจเป็นอิทธิพล ของการแพทย์แผนโบราณของประเทศจีนที่นำคางคกมาทำเป็นยา สรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง โดยใช้คางคกที่ตายซาก ไม่เน่าเหม็น เอาทั้งตัวมาเผาไฟจนเป็นถ่านสีดำ บดละเอียดผสมน้ำมันพืช ทารักษาแผลเรื้อรัง เช่น แผลโรคเรื้อน แผลคุดทะราด นายแพทย์วิชัย กล่าวว่า คางคกมีต่อมพิษที่ผิวหนัง ที่ต่อมน้ำลาย พบพิษมาก ที่รังไข่ เครื่องใน ไข่คางคก สารพิษของคางคกไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนธรรมดา เมื่อปี ๒๕๔๐ มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการต้มคางคกกินแกล้มเหล้า
สำหรับคางคกรักษาโรคเอดส์ นายแพทย์วิชัยฯ กล่าวว่า ตามข่าวที่เสนอผ่านสื่อมวลชนถือว่าไม่น่าเชื่อถือ เพราะในข่าวอ้างว่าเป็นตำราตั้งแต่บรรพบุรุษ แสดงว่าเป็นตำราที่เก่ามาก แต่โรคเอดส์เพิ่งพบคนไทยป่วยเป็นคนแรกในปี ๒๕๒๗ มีการระบาดใหญ่เมื่อปี ๒๕๓๐ ขณะที่ตำราบอกว่าสูตรคางคกรักษาโรคหายนั้น ไม่น่าจะเป็นเอดส์ ถ้านำคางคกมากิน ต้องกินด้วยความระมัดระวังมาก ไม่กินส่วนที่เป็นพิษ ผิวหนัง ต่อมน้ำลาย เครื่องใน ไข่คางคกยิ่งร้ายแรงเพราะพิษมาก ขณะที่การรักษาโรคเอดส์ รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนทั้งการป้องกันและการรักษาโรค เมื่อระดับภูมิต้านทานต่ำให้กินยาต้านไวรัสฟรีในโครงการ ๓๐ บาท ซึ่งผลการรักษาให้ผลดี ไม่ต้องพึ่งวิธีการที่เสี่ยงอันตราย
( ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๘ )--จบ--