กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--KEYEDGE Agency
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) วางหมากกลุ่มธุรกิจโรงภาพยนตร์ ต้องเป็นพื้นที่ สำหรับการจัดอีเว้นท์ และชมภาพยนตร์เป็นหมู่คณะที่ครบครันที่สุดในใจลูกค้า เดินหน้าเร่งยอดขายตลาด ลูกค้าองค์กร พร้อมชูสาขาใหม่ทั่วกรุงให้เป็นแฟลกชิฟ สโตร์ อาทิ เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์, อีสท์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์ และควอเทียร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่มีความพร้อมและทันสมัยทั้งเทคโนโลยี และการตกแต่งสถานที่ เพื่อรองรับทุกความต้องการจัดกิจกรรมของลูกค้าองค์กร (Group Booking) โดยคาดหวังรายได้ตลาดกรุ้ป บุคกิ้งปี 2559 กว่า 190 ล้านบาท
นายอภิชาติ คงชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ในปี 2559 นี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ต้องการรุกตลาด กลุ่มลูกค้าองค์กรในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพของกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กรที่ขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา หลังจากที่เราได้มีการปรับปรุงพื้นที่ โรงภาพยนตร์ไอแมก ที่พารากอนซีนีเพล็กซ์ โดยเสริมระบบเวทีไฮดรอลิกเข้าไป ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี จากลูกค้าองค์กรสนใจเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายลูกค้ากรุ้ป บุคกิ้ง (Group Booking) เติบโตขึ้น 31% ซึ่งในปีนี้เมเจอร์ยังคงต้องการขยายตลาดกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องสู่ความเป็นผู้นำตลาด Group Booking ในการให้บริการพื้นที่รองรับการจัดงานเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ทั้งระบบแสง สี เสียง ที่ทันสมัยที่สุด ที่เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และเสริมในเรื่องการตกแต่งให้ดูทันสมัยมีสไตล์ ที่โดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละโลเคชั่น เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและรสนิยมที่หลากหลายของ กลุ่มเป้าหมาย และให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์บันเทิงใหม่ของสุดยอดโรงภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ ที่สุด โดยได้เพิ่มเติมการออกแบบตกแต่งสถานที่ด้วยสถาปัตยกรรมที่ดูทันสมัยและหรูหราโดดเด่นด้วย โรงภาพยตร์ VIP สุดหรูที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด, โรงภาพยนตร์ไอแมกที่มีการขยายไปในสาขาต่างๆ มากขึ้นถึง 6 สาขา และสุดยอดโรงภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด 4 มิติ 4Dx รวม 8 สาขา ที่มาพร้อมกับ 13 สเปเชี่ยลเอฟเฟ็คท์ใหม่ล่าสุด และโรงภาพยนตร์ในระบบดิจิตอลสมบูรณ์แบบที่จะรองรับ การจัดกิจกรรมใน รูปแบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการ อาทิ การจัดงานแถลงข่าว, เปิดตัวสินค้า, งานสัมมนา, ทอล์คโชว์, มินิคอนเสิร์ต เป็นต้น โดยได้วางสาขาแฟลกชิฟไว้หลายแห่งทั่วกรุง อาทิ เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์, อีสท์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์ และควอเทียร์ ซีนีเพล็กซ์
นอกจากนี้เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังมีแผนจะดำเนินการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมภายในปี 2559 รวมแล้วอีกกว่า 23 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวมสาขาทั้งสิ้นถึงสิ้นปี 2559 จำนวน 114 สาขา จำนวน 696 โรงภาพยนตร์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอับดับหนึ่งในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ ของประเทศไทย ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้ากลุ่มองค์กรรวมถึงลูกค้าทั่วไป โดยเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ต้องการให้ทุกคนนึกถึงแบรนด์เมเจอร์ เป็นลำดับต้นๆ เมื่อนึกถึงความบันเทิงและ การเป็นผู้ให้บริการพื้นที่ที่เข้าถึงง่าย, ใจกลางเมืองพร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และความสวยงาม รวมไว้ในทีเดียว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการบริการสำหรับลูกค้า กลุ่มองค์กรแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การเหมารอบชมภาพยนตร์ และการจัดกิจกรรมพิเศษ (Event) หรืองานสัมมนาต่างๆ โดยจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นคาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวม ของตลาดกลุ่มลูกค้า องค์กรหรือ Group Booking ภายในปีนี้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือกว่า 190 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นยอดขายจากการเหมารอบชมภาพยนตร์ และการจัดอีเว้นท์มากกว่า 60% และรายได้อื่นๆ 40% นายอภิชาติ กล่าวเสริม