กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--IR network
บอร์ด บมจ.ช. ทวี ดอลลาเซียน (CHO) อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0058 บาทต่อหุ้น และปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราหุ้นปันผล 0.025 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 0.0308 บาทต่อหุ้น พร้อมเล็งออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อบริษัทให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯและให้จดจำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" ตั้งเป้าปี"59 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% จากปีก่อน หลังตุนงานในมือไว้แล้ว 430 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่อีกจำนวนมาก
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) (CHO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด ในอัตรา 0.0058 บาทต่อหุ้น และปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราหุ้นปันผล 0.025 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิน 0.0308 บาทต่อหุ้น สำหรับงวดผลประกอบการปี 2558 โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 29 เมษายน 2559 เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
ขณะเดียวกันยังมีมติเห็นชอบการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (CHO-W1) เนื่องจากมีเหตุแห่งการปรับสิทธิในกรณีบริษัทฯ มีการจ่ายหุ้นปันผลซึ่งส่งผลให้อัตราการใช้สิทธิและราคาใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงไป แต่เนื่องจากยังไม่ทราบจำนวนหุ้นสามัญชำระเต็มมูลค่า ณ วันก่อนปิดสมุดทะเบียนหุ้นสามัญเพื่อสิทธิในการรับหุ้นปันผล เพราะต้องรอทราบผลการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CHO-W1 ในรอบวันที่ 31 มีนาคม 2559 ก่อน ดังนั้น หากได้ข้อสรุปการปรับสิทธิฯ ที่แน่นอนแล้ว บริษัทฯ จะทำการแจ้งให้ผู้ถือ CHO-W1 ทราบอีกครั้งในเร็วๆ นี้
พร้อมกันนี้ ยังมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนโดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกินสิทธิในการรับหุ้นปันผลและรองรับการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (CHO-W1) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25บาท พร้อมกับ แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
ขณะเดียวกันยังมีมติอนุมัติการออกหุ้นกู้ โดยประเภทขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออกและเสนอขายหุ้นกู้นี้ในวงเงิน มูลค่ารวมของหุ้นกู้ที่ยังไม่ไถ่ถอน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง กำหนดไว้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในอัตรที่เทียบเท่า และมีอายุ สำหรับหุ้นกู้ระยะสั้นไม่เกิน 270 วัน และสำหรับหุ้นกู้ระยะยาวไม่เกิน 10 ปี และสุดท้ายอนุมัติให้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ โดยให้คณะกรรมการบริหารร่วมกันพิจารณาคัดเลือกชื่อใหม่ของบริษัทฯ แทนชื่อเดิมเพื่อให้สอดคล้อง และแสดงถึงความหลากหลายด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ ให้จดจำง่าย โดยกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 ในวันที่ 21 เมษายน 2559 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
"ผลประกอบการในปี 2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,158.79 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35.74 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% โดยปัจจุบันมีงานในมือประมาณ 430 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานใหม่ทั้งในและต่างประเทศอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายศูนย์ซ่อมบำรุงรถใหญ่เพิ่มอีกจำนวน 8 ศูนย์ ทั่วประเทศ ภายในปี 2559 – 2561 เพื่อเป็นการให้บริการแบบครบวงจร one-stop service ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้" นายสุรเดชกล่าวในที่สุด