กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--มาร์เก็ต-คอมส์
อุตสาหกรรมความงามของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 14 คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 318 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,100 ล้านบาท ขณะเดียวกัน งบประมาณการโฆษณาในกลุ่มอุตสาหกรรมความงามนี้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 77 ต่อปี โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมเติบโตมากที่สุดถึงร้อยละ 97.50 กลุ่มดูแลผิวหน้ารองลงมาร้อยละ 70.25 ส่วนกลุ่มดูแลและบำรุงผิวกายอยู่ที่ร้อยละ 63.00
บริษัท มินห์ วี แอดเวอร์ไทซิ่ง เซอร์วิส และ เอ็กซิบิชั่น จำกัด จึงได้ร่วมกับสมาคมช่างผมมืออาชีพสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จัดงาน MYANMAR BEAUTY CONNECT EXPO 2016 หรือ งานแสดงสินค้าและนิทรรศการด้านความงาม ระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม พ.ศ.2559 ณ โรงแรม โรส การ์เด้น เมืองย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า เพื่อเป็นเวทีเจรจาการค้าธุรกิจและอุตสาหกรรมความงามสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
นางสาว ดาว์ นัน อิอีซาร์ ประธานสมาคมช่างผมมืออาชีพ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า นายโรแมง มาร์เซลิ ผู้บริหารจัดงาน บริษัท มินห์ วี แอดเวอร์ไทซิ่ง เซอร์วิส และ เอ็กซิบิชั่น จำกัด และดร. สุรชัย เลี่ยมทอง ประธาน วิต้า สเต็ม อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา (ประเทศไทย) ได้ร่วมงานแถลงข่าวโอกาสทองของนักลงทุนไทย-เทศในตลาดอุตสาหกรรมความงามของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ภายในงาน MYANMAR BEAUTY CONNECT EXPO 2016 พร้อมด้วยผู้ประกอบการชั้นนำจากประเทศไทยกว่า 40 ราย
นางสาว ดาว์ นัน อิอีซาร์ ประธานสมาคมช่างผมมืออาชีพ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า กล่าวว่า "ปัจจุบัน สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมาย ระบบสาธารณูปโภค การศึกษา เศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยอัตราการเติบโตของ GDP ประเทศเฉลี่ยร้อยละ 6 ระหว่างปี พ.ศ. 2552-2556 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8 ระหว่างปี พ.ศ. 2556-2561 โดยกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีพ.ศ. 2563 ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูป อาหารเด็กและทารก มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 12 เครื่องดื่มน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 18 โดยคาดว่าจะเติบโตขึ้นสูงถึงร้อยละ 15 และ 23 ภายในปี พ.ศ. 2561 เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมความงาม เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยต่อปีร้อยละ 14 โดยกลุ่มผู้บริโภคหลัก ชาวพม่า ปัจจุบัน รู้จักผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์จากต่างประเทศเป็นอย่างดี เนื่องจากหลายแบรนด์ได้นำเข้าจากประเทศไทย รวมทั้งผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อความสวยงาม ริ้วรอย และการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากชาวพม่าแล้ว ยังมีกลุ่มผู้บริโภคอื่นๆ อย่างชาวต่างชาติที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศ ต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เช่นกัน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากอีกด้วย"
นายโรแมง มาร์เซลิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท มินห์ วี แอดเวอร์ไทซิ่ง เซอร์วิส และ เอ็กซิบิชั่น จำกัด กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า "งาน MYANMAR BEAUTY CONNECT EXPO 2016 เป็นงานที่รวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการด้านความงามอย่างครบวงจร เครื่องสำอาง น้ำหอม อาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผิว และเรือนร่าง รวมถึง วัตถุดิบการผลิต โรงงานผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักร จากผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลกมาจัดแสดง ขณะเดียวกัน เป็นเวทีเจรจาธุรกิจการค้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมความงาม สำหรับผู้ประกอบการภาคธุรกิจในแถบอาเซียน
การจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทั่วโลกสนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 3,000 ราย ร่วมแสดงงานกว่า 100 องค์กร จาก 10 ประเทศ อาทิ ประเทศไทย เวียดนาม อินเดีย ตุรกี และอื่นๆนอกจากงาน MYANMAR BEAUTY CONNECT EXPO 2016 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรม โรส การ์เด้น เมืองย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า แล้ว ยังได้วางแผนไปจัดงานอีก 2 ประเทศ ซึ่งมีการเติบโตในอุตสาหกรรมความงามอย่างสูง ได้แก่ ราชอณาจักรกัมพูชา จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน พ.ศ. 2559 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการไดมอนด์ ไอซ์แลนด์ กรุงพนมเปญ และประเทศบังคาเทศ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ โรงแรมแพนแปซิฟิกโซนากาอน กรุงดากา ประเทศบังคลาเทศ
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการ BEAUTY CONNECT EXPO 2016 ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ราชอณาจักรกัมพูชา ประเทศบังคาเทศ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (+84-8) 3842 7755 หรืออีเมล์ info@veas.com.vn หรือเว็บไซต์ http://www.beautyconnectasia.com
สิทธิประโยชน์ด้านภาษีธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
1. บริษัทที่มีการลงทุนในพม่าหรือร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าหรือการบริการ จะได้รับการยกเว้นภาษี 5 ปี ติดต่อกัน นับตั้งแต่วันเริ่มกิจการ
2. หากมีการนำเงินของบริษัทไปลงทุนในกองทุน จะได้รับการลดหย่อนภาษี และสามารถนำผลกำไรมาลงทุนได้ใหม่ภายใน 1 ปี
3. ค่าเสื่อมของเครื่องจักร อุปกรณ์ อาคาร สินทรัพย์ หรือ เงินทุนอื่นๆ สามารถนำมาประเมินภาษีเงินได้
4. ธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตและส่งออกสินค้า สามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 50%
5. นอกจากนี้ ยังได้สิทธิลดหย่อนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยและกิจกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจในพม่า โดยกำหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของการดำเนินธุรกิจนั้นๆ
6. หากมีการลงทุนมากกว่า 1 บริษัทในพม่า และหากบริษัทใด บริษัทหนึ่งมีรายได้ที่ต่ำกว่าอีกบริษัท สามารถนำรายได้ของบริษัทที่ต่ำกว่าเพื่อการยื่นภาษีได้
7. ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงระหว่างที่บริษัทกำลังก่อสร้าง
8. ได้รับการยกเว้นภาษีการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับการผลิตในช่วง 3 ปีแรกของการดำเนินธุรกิจ หรือ การลดหย่อนภาษีสำหรับการค้าเพื่อการส่งออก
คำบรรยายใต้ภาพ
นางสาว ดาว์ นัน อิอีซาร์ (กลาง) ประธานสมาคมช่างผมมืออาชีพ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า นายโรแมง มาร์เซลิ (แรกขวา) ผู้บริหารจัดงาน บริษัท มินห์ วี แอดเวอร์ไทซิ่ง เซอร์วิส และ เอ็กซิบิชั่น จำกัด นางลัดดา มงคลชัยวัวิฒน์ (ที่สองจากขวา) รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซ๊. แมเนจเมนท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด รองศาสตราจารย์ ดร. นพ. กำพล ศรีวัฒนกุล (แรกซ้าย) และดร. สุรชัย เลี่ยมทอง (ที่สองจากซ้าย) ประธาน วิต้า สเต็ม อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา (ประเทศไทย) ได้ร่วมงานแถลงข่าวโอกาสทองของนักลงทุนไทย-เทศในตลาดอุตสาหกรรมความงามของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ภายในงาน MYANMAR BEAUTY CONNECT EXPO 2016 ซึ่งจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม พ.ศ.2559 ณ โรงแรม โรส การ์เด้น เมืองย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า พร้อมด้วยผู้ประกอบการชั้นนำจากประเทศไทยกว่า 40 ราย