กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--เบรนเอเชีย คอมมิวนิเคชั่น
ลูกหลานตัวน้อยล้วนเป็นดวงใจของพ่อแม่และครอบครัว เป็นอนาคตสดใสของสังคมไทย ปัจจุบันมีน้องน้อยวัยตั้งแต่ 1-13 ปี เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังทั่วประเทศจำนวนหลายหมื่นคน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยลักษณะโรคที่ยืดเยื้อ มีความรุนแรงและส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ บางรายอาจมีอาการของโรคกำเริบรุนแรงถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตได้ ได้แก่ โรคหัวใจ โรคไต โรคเลือด โรคมะเร็ง หรือเนื้องอก โรคทางกระดูก พิการทางร่างกายอันเนื่องมาจากสมอง ออทิสติก ทาลัสซีเมีย รวมทั้งเด็กๆที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความพิการบกพร่องของร่างกาย และโรคอื่น ๆ
พลังความรักและกำลังใจที่แบ่งปันให้กันนั้นยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อผู้ป่วยน้องน้อย บ.สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้จัดกิจกรรม "รุ้งแห่งฝัน...สรรค์ความสุขแด่น้องน้อยผู้ป่วยเด็ก" ให้กับผู้ป่วยวัยเด็กด้วยโรคเรื้อรังกว่า 250 คน ณ ฝ่ายการพยาบาล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ อาคารอานันทมหิดล โรงพยาบาลศิริราช เพื่อร่วมกันถักทอสายรุ้งแห่งความฝันและความหวังเป็นกำลังใจให้เด็กๆ ต่อสู้กับโรคร้ายที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่อย่างอุ่นใจ
ภายในงานเต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากเด็กๆ ผู้ป่วยรวมถึงผู้ปกครองที่มาดูแลบุตรหลาน เริ่มต้นเส้นทางฝันด้วยศิลปิน AF-8 ต้น หรือ ธนษิต จตุรภุช มาเปิดอ้อมกอดโลกสุนทรีย์ให้น้องๆได้รื่นรมย์ กับบทเพลงไพเราะและเปี่ยมความหมาย ต่อด้วยการแสดงระบำพัดสุดตระการตาของเหล่านักเรียนจิตอาสาจากโรงเรียนศุภวรรณ จากนั้นทีมพี่ๆ พยาบาลจากตึกเจ้าฟ้ามหาจักรีพร้อมใจกันยกทีมมาในมาดแดนเซอร์จราจร พาน้องๆไปสนุกบนเส้นทาง ด้วยการแสดงละครใบ้หรรษาจากคณะเบบี้ไมม์ (Baby Mime) มาปลุกจินตนาการน้องน้อยในความเงียบให้โลดแล่นหลากสีสันหลายลีลาฮาเฮ อีกไฮไลต์ "เจ้าชายสายฟ้า" เดินทางข้ามกาลเวลาจากแดนเทพนิยายมาคุยกับน้องๆ ถึงแรงบันดาลใจที่จะช่วยกันทำบ้านให้น่าอยู่และโลกที่สวยงามด้วยมือของเด็กๆ แล้วพาตะลุยเล่นเกมผจญภัย พร้อมมอบของขวัญตุ๊กตาหมีน่ารักจากสยามกลการอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มพี่ๆ นักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. เชิญหุ่นยนต์อัจฉริยะ "ดินสอ" มาพูดคุยกับน้องๆ ถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์และเรียกความครื้นเครงดึงดูดเหล่าจอมซนให้มาร่วมสนุกบนเวที อีกทั้งโชว์ศิลปะดัดลูกโป่งหลากสีเป็นดอกไม้ การ์ตูน มาแจกน้องๆ ปิดท้ายสุดสนุกกับนิทานหุ่นทำมือ เรื่อง "หัวผักกาดยักษ์"
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า "โรคเรื้อรังในเด็กมีผลให้เด็กๆที่ควรจะมีกิจกรรมเรียนรู้ วิ่งเล่นร่าเริงสดใส ต้องมาพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลยาวนาน หรือรับการรักษาในแผนกผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่องตามอาการและกำหนดการรับการรักษาจากแพทย์ หลายรายได้กลับไปรักษาดูแลต่อที่บ้าน คณะวิศวลาดกระบัง มาให้กำลังใจน้องๆ พร้อมกับ "ดินสอ" หุ่นยนต์อัจฉริยะตัวแรกจากฝีมือประดิษฐ์ของคนไทย โดย ซีทีเจ เอเซีย โรโบติกส์ ฉลาดน่ารัก เป็นมิตร มาทักทายและเติมฝันให้เด็กๆ ทุกคน เต้นรำตามจังหวะเพลง จุดประกายให้น้องๆ เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจในความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป น้องๆ ทุกคนแม้ว่าร่างกายจะป่วยแต่ต่างก็มีความฝันของตัวเอง เราอยากเห็นน้องๆ ทุกคนหายป่วยในเร็ววัน ส่งเสริมให้สานความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ไม่ย่อท้อ กล้าคิด กล้าทำ มีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ใฝ่ศึกษาและที่สำคัญต้องเป็นคนดีมีจริยธรรมด้วย"
กานต์ นิธิโภคทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า "ในงานนอกจากจะได้เห็นภาพความสุขสนุกสนานของน้องผู้ป่วยแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใย และความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของผู้เป็นพ่อแม่ที่คอยดูแลอยู่เคียงข้างไม่ห่าง เสมือนเป็นยาวิเศษอีกขนานหนึ่ง ขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ คุณหมอ ทีมพยาบาลที่ให้ความรักและความเอาใจใส่ในการดูแลบรรเทาอาการเจ็บป่วยของน้องๆ ในความเจ็บป่วยของเด็กๆนั้นทั้งไม่สบายกาย เครียดจากความเจ็บไข้ จิตใจหม่นหมอง ต้องปรับตัวต่อการเจ็บป่วย บางคนต้องมีสายระโยงระยางและสวมใส่อุปกรณ์เครื่องมือช่วยรักษา และหวังที่จะมีชีวิตเป็นปกติ กำลังใจจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการฟื้นฟูสุขภาพน้องที่กำลังป่วยด้วยโรคเรื้อรังอยู่ให้มีอาการดีขึ้น สำหรับน้องๆ ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีอยู่แล้วก็อย่าละเลยที่จะดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ ครับ"
ณัฐชา ศรัทธาพรรณ หรือ น้องนุ่น วัย 13 ปี หนึ่งในผู้ป่วยเด็กที่มาร่วมงาน กล่าวว่า "รู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับทุกกิจกรรมค่ะ ยังมีเพื่อนๆน้องๆผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่นอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถเดินมาร่วมงานได้ ของขวัญชิ้นเล็กๆ มีความหมายกับเด็กๆผู้ป่วยในโรงพยาบาล รู้สึกดีที่ยังมีคนอื่นที่รักห่วงใยเรา เพราะเด็กที่ป่วยมักจะไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กทั่วไป หนูไม่อยากป่วยเลยค่ะ ไม่สนุกเลย ต้องขาดเรียน ไม่ได้เจอเพื่อนๆ มีคุณแม่มาอยู่เป็นเพื่อนหนูที่โรงพยาบาล ความฝันในอนาคตหนูอยากเป็นครู เพราะหน้าที่ของครูยิ่งใหญ่รองจากพ่อแม่ เป็นผู้สร้างสรรค์ปั้นเด็กๆให้มีความรู้ความสามารถและไปทำงานอาชีพต่างๆในสังคมเรา คุณครูในดวงใจของหนูเป็นครูฝึกสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เวลาที่นักเรียนมีปัญหาอะไร ครูจะรับฟังและเข้าใจนักเรียนดี ช่วยเหลือให้คำแนะนำนักเรียนเสมอค่ะ ถ้าหากหนูได้เป็นครูจริงๆ หนูจะตั้งใจสอนให้นักเรียนของหนูให้เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน มีความคิดสร้างสรรค์และกระตุ้นให้นักเรียนเอาความรู้ไปพัฒนาสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้น ช่วยครอบครัวแล้วก็ช่วยผู้อื่นด้วย ประเทศของเราจะได้เจริญก้าวหน้าไม่หยุดนิ่งค่ะ"
ศิรวิชญ์ จิตรถาวรกุล หรือ น้องจ้า วัย 10 ปี หนุ่มน้อยจิตอาสาในกลุ่มหุ่นเล่านิทาน Mommy Puppet กล่าวว่า "ผมชอบเล่านิทานเพราะว่านิทานทำให้ตัวเราสนุกและทำให้คนอื่นๆ มีความสุขไปด้วยครับ ครั้งหนึ่งผมเคยเล่านิทานที่แต่งเองให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังแล้วเพื่อนๆ ชอบ ผมเลยขอให้คุณแม่เย็บหุ่นในนิทานของผมเพื่อใช้เล่าให้คนอื่นๆ ฟังด้วย จากนั้นมาผมก็ได้รับเชิญไปเล่านิทานหลายๆ งาน ตอนนี้เรามีหุ่นกว่า 200 ตัว ทั้งแบบที่เป็นหุ่นนิ้วมือ หุ่นมือเล็ก หุ่นมือใหญ่ และหุ่นเชิดแบบมีไม้จับ ในงานวันนี้ผมได้มาเล่านิทานเรื่อง "หัวผักกาดยักษ์" ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังป่วยได้ชม โดยใช้หุ่นเชิด เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณตาคนหนึ่งปลูกหัวผักกาดในแปลง หัวผักกาดโตขึ้นทุกวันๆ จนคุณตาดึงไม่ไหว จึงไปเรียกคนอื่นๆ มาช่วยดึงทีละคนๆ แต่ก็ยังไม่สามารถดึงหัวผักกาดยักษ์ได้ จนสุดท้ายทั้งคุณตา คุณยาย หลานสาว หมา แมว หนู และน้องๆ ผู้ชมขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันดึง ในที่สุดก็สามารถดึงหัวผักกาดยักษ์ออกมาได้สำเร็จ นิทานเรื่องนี้ให้ข้อคิดว่า ถ้าทุกคนมีความรักสามัคคีและรวมพลังช่วยเหลือกันแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ครับ"
สายรุ้งแห่งความฝัน...เรืองรองหลังฝนฟ้าพายุด้วยความหวังกำลังใจของผู้ป่วยเด็ก สัมผัสกับความรัก ความห่วงใย เป็นแรงพลังอันวิเศษให้เด็กน้อยขยับก้าวเล็กๆ สู้กับความเจ็บป่วยอย่างเข้มแข็งเพื่อจะได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวและเพื่อนในโรงเรียน