ภาพข่าวรมว.คลังแถลงภายหลังการประชุม ครม.วันที่ 23 ก.พ.2559

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 24, 2016 15:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติมาตรการช่วยผู้สบประภัยแล้ง และเพิ่มขีดความสามารถให้ภาคเกษตร ประกอบด้วย 3 เรื่อง คือ 1. โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและจำเป็นของเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ปี 2558/2559 วงเงินรวมทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท โดยให้สินเชื่อไม่เกิน 12,000 บาทต่อราย กำหนดชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 เดือน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0 ต่อปี ในระยะเวลา 6 เดือนแรก และตั้งแต่เดือนที่ 7 - 12 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เพื่อบรรเทาเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากภัยแล้ง รวมวงเงินทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท 2. โครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย วงเงินสินเชื่อรวมทั้งสิ้น72,000 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. ให้สินเชื่อระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 10 ปี ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นเวลาไม่เกิน 7 ปี และปีที่ 8 - 10 อัตราดอกเบี้ยปกติตามชั้นลูกค้า วงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย และ3. โครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤติภัยแล้ง วงเงินสินเชื่อรวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท ใช้เป็นค่าเช่าที่ดินค่าปัจจัยการผลิต และค่าจ้างแรงงานให้กับเกษตรกร โดยกำหนดวงเงินกู้กลุ่มละไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี กำหนดชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 เดือน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอเรื่องให้ ครม. พิจารณา ในการสนับสนุนบัญชีเดียว ซึ่งผ่าน ครม. เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ที่เข้าบัญชีเดียวโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หรือ เอสเอ็มอี นำค่าใช้จ่ายในการจ้างนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเรียนวิชาด้านบัญชี ทั้งอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาในการช่วยพัฒนา สอนลงบัญชี โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าจ้างนักศึกษามาหักภาษีได้ 100% ซึ่งมองว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะช่วยให้สามารถเข้าสู่ระบบบัญชีเดียวได้สะดวกขึ้น และที่ประชุมยังอนุมัติมาตรการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneurs) ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ให้กับเอสเอ็มอีรายย่อยที่ไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันรวมทั้งสิ้น 13,500 ล้านบาท โดยค้ำประกันให้รายละไม่เกิน 200,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวนั้นเป็นโครงการเพิ่มเติมจากปีที่ผ่านมาที่เคยค้ำประกันไปแล้ว 5,000 ล้านบาท ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 (อ่านรายละเอียดจากข่าวแถลงกระทรวงการคลังฉบับที่ 26/2559 และ 27/2559)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ