กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--คอร์ปอเรท พับลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์
หมอใหญ่เตือนยาชุด ยาสมุนไพรลูกกลอนเป็นอันตรายต่อการบำบัดหรือบรรเทาอาการปวดจากข้อ แนะปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาอย่าให้ชีวิตตนเองตกเป็นเหยื่อความหลงเชื่อเพราะอาจมีผลข้างเคียงตามมาอย่างคาดไม่ถึง
นายแพทย์อุดม วิศิษฏสุนทร นายกสมาคมโรคข้อและกระดูกแห่งอาเซียนเปิดเผยว่า โรคข้อเป็นโรคพบบ่อยมากโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุที่มีตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และยังพบบ่อยในทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ผู้ป่วยจะปวดบริเวณข้อต่อต่างๆ ทำให้ทรมาณมาก แม้จะรับการรักษาแต่ยังไม่หายขาดโรคข้อเกิดจากหลายสาเหตุรวมทั้งการเสื่อมของข้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยง แต่จะชะลอให้เกิดช้าลงได้ บริเวณที่พบมากก็จะเป็นบริเวณข้อเข่า หลัง แขน ขา มักไม่ปรากฎอาการในระยะแรกแต่จะทราบได้จากการเอ็กซเรย์เท่านั้น
นายแพทย์อุดม ยังกล่าวอีกว่า จากการประมาณการผู้ป่วยคนไทยที่เป็นโรคข้อ คาดว่าจะมีจำนวนถึงร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรหรือประมาณ 6 ล้านคน พบมากในหญิง และปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้คือคนอ้วนหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก อาชีพที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยและนั่งเป็นเวลานาน มีการใช้ข้อที่ไม่ถูกต้อง กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้มาก
ที่ผ่านมากหลายคนยังมีความเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลตนเอง อาการปวดเมื่อยบางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ยาแต่ก็ไปซื้อยารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายตามมา โดยเฉพาะยาชุดและสมุนไพรลูกกลอนมักมีเสตียรอยด์ที่เป็นส่วนผสมทั้งการใช้ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs)ที่มีผลข้างเคียงทำให้ปวดท้อง กระเพาะอาหารเป็นแผล อาจมีเลือดออก กระเพาะรั่วได้หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ผิดว่ายาสมุนไพรปลอดภัย แต่หารู้ไม่สมุนไพรในรูปยาลูกกลอนมักแฝงไปด้วยผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ อาทิ อาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน อาการเบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ตัวบวม บางรายอาจเสียชีวิตได้
ปัจจุบันในการรักษาโรคข้อมีการนำเอาสารสกัดจากขิงและข่าเข้ามาใช้ในการบรรเทาอาการปวดเนื่องจากโรคข้อและจากการศึกษาทางคลินิกในผู้ที่ป่วยโรคข้อ เปรียบเทียบระหว่างสารสกัดจากขิงและข่ากับสารไดโคลฟิแนกซ์ของดร.เอ.เอส.ไอเวอร์เซนน์ ผู้เชี่ยวชาญโรคข้อจากประเทศเดนมาร์ก พบว่าสารสกัดจากขิงและข่า สามารถบรรเทาอาการปวดเนื่องจากข้ออักเสบได้ดีและไม่ผลข้างเคียงต่อระบบกระเพาะอาหาร ดังนั้นสารสกัดจากขิงและข่าจึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบำบัดผู้ป่วยโรคข้อเพราะผลข้างเคียงน้อยกว่ายาแผนปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ พุทธิพร เอมสมบูรณ์ (ตุ้ม) เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โครงการ
บจก. คอร์ปอเรท พับลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์
โทร. 282-8773-4 โทรสาร 628-7231-2--จบ--
-อน-