นายกฯ เปิดโรงแยกก๊าซฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday August 2, 2005 10:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--ปตท.
มีกำลังการแยกก๊าซฯ 530 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทรัพยากรก๊าซธรรมชาติของไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุนการขยายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของประเทศให้แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลก
วานนี้ (1 ส.ค. 48) พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 5 ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 13,908 ล้านบาท มีกำลังการแยกก๊าซฯ 530 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 1-3 ในเขตตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 สามารถผลิตอีเทน จำนวน 520,000 ตันต่อปี โพรเพนและแอลพีจี 646,000 ตันต่อปี และเอ็นจีแอล 177,000 ตันต่อปี รวมกัน 1,343,000 ตันต่อปี สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมากมายต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อเนื่อง โดยอีเทนที่ผลิตได้จะใช้เป็นวัตถุดิบให้กับการขยายโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 2 ขนาด 300,000 ตันต่อปีของ บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอซี เพื่อผลิตเอทิลีน (Ethylene) ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อเนื่องอื่นๆ ซึ่งรวมถึงเอทิลีนออกไซด์ (Ethylene Oxide) และ เอทิลีนไกลคอล (Ethylene Glycol) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเส้นใยสิ่งทอ และเม็ดพลาสติก
โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในกลุ่ม ปตท. แล้วยังช่วยให้ ปตท. สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Creation) อย่างครบวงจรส่งผลให้ประเทศสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลางและต่อเนื่องได้ปีละ 8,700 ล้านบาท และเพิ่มรายได้การส่งออก LPG ปีละ 7,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพิ่ม (Value Creation) จากก๊าซธรรมชาติที่โรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 สามารถสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ปีละ 10,400 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของผลผลิตมวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Products หรือ GDP)ดีขึ้นด้วย
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในต้นปีหน้า ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 3
ในอ่าวไทยจะแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มการจัดส่งก๊าซฯ ได้ถึง 2,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปตท.ได้มีแผนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติดังกล่าว โดยการขยายโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6,7 และ 8 ในอนาคต เพื่อรองรับแผนการขยายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 3 ของประเทศต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ