J ตั้งเป้ารายได้โต 30% ลุยเปิดพื้นที่เช่าใหม่เพิ่มอีก 10 สาขาปีนี้ บอร์ดควัก กระเป๋าจ่ายเงินปันผลอีก 0.07 บ./หุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 29, 2016 16:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--IR PLUS บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท หรือ J ตั้งเป้าปี 59 รายได้โตอีก 30% จากปี 2558 อยู่ที่ 506 ล้านบาท จากธุรกิจบริหารพื้นที่เช่า และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 10 สาขาปีนี้ แบ่งเป็น IT Junction 8 สาขา , ตลาด J Market 1 สาขา รวมทั้งการเปิดศูนย์การค้าชุมชน THE JAS อีก 1 สาขา ที่ศรีนครินทร์ ด้าน "สุพจน์ วรรณา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจเต็มกำลัง หลังโชว์ผลงานปี 58 รายได้อยู่ที่ 506 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 58.15 ล้านบาท บอร์ดบริษัทฯ ควักกระเป๋าจ่าย เงินปันผลทันทีหลังเข้าตลท.ในอัตรา 0.07 บ./หุ้น นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี ก่อน โดยตั้งเป้าปี 2559 รายได้ค่าเช่าและค่าบริการโตอีก 30% จากปี 2558 อยู่ที่ 506 ล้านบาท จากการขยายพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับอัตราค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนสินค้าประเภทโทรศัพท์ เคลื่อนที่ และสินค้าเทคโนโลยี เพื่อนำมาจัดสรรและให้เช่าต่อกับผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ชื่อ "IT Junction" เป็นธุรกิจหลัก ของบริษัทฯ ปัจจุบันมีจำนวน 47 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด, ธุรกิจในรูปแบบตลาดชุมชนภายใต้ชื่อ "J Market" เปิดให้บริการแล้วจำนวน 4 แห่ง และศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) ภายใต้ชื่อ "The Jas" เปิดให้บริการแล้วจำนวน 2 แห่ง โดยในปี 2559 ตั้งเป้าหมาย จะเปิดสาขาของทั้งสามธุรกิจหลักไม่น้อยกว่า 10 สาขา ได้แก่ IT Junction ไม่น้อยกว่า 8 สาขา, ตลาด J Market จำนวน 1 สาขา รวมทั้งการเปิดศูนย์การค้าชุมชน THE JAS อีก 1 สาขา ที่ศรีนครินทร์ สำหรับ งบลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 650 ล้านบาท สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ของรายได้และกำไรให้แข็งแกร่ง "ปัจจุบัน J มี 3 ธุรกิจหลัก ซึ่งธุรกิจ IT Junction เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ อยู่ที่ราว 80% อีกทั้ง บริษัทฯ ยังถือเป็นผู้นำในธุรกิจดังกล่าว จากการมีสาขาเยอะที่สุดครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอัตราการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ที่ดีอย่างต่อเนื่อง มาโดยตลอด สำหรับธุรกิจ J Market ตลาดชุมชนมีสัดส่วนรายได้ราว 5% และธุรกิจ The Jas ศูนย์การค้าชุมชนมีสัดส่วนรายได้ราว 15% ซึ่งบริษัทฯ มองว่า นอกจากธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าแล้ว ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีอนาคตที่ดี จากการคัดสรรทำเลที่เหมาะสมและตรงตามกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้ง ความแข็งแกร่งจากการเป็นบริษัทในเครือเจมาร์ท กรุ๊ป จึงมองว่า จากการขยายทั้ง 3 ธุรกิจ อย่างต่อเนื่องนี้ จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีสาขารวมกันทั้งสิ้นมากกว่า 100 สาขา ในปี 2562 พร้อมตั้งเป้าภายใน 4 ปีจากนี้ สัดส่วนทั้ง 3 ธุรกิจจะอยู่ที่ระดับ 60% , 20% และ 20% ตามลำดับ" นายสุพจน์ กล่าว สำหรับผลประกอบการในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการอยู่ที่ 506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.68% จากงวดเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 437.42 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 58.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.13% จากงวดเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 54.79 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรเงินกำไรงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 เพื่อจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้แก่ ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 19 เมษายน 2559 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อพักการโอนหุ้น และรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 20 เมษายน 2559 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 เมษายน 2559 และกำหนดวันที่จ่ายปันผลวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 นับเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกทันทีหลักจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ